กติกาฮอกกี้ในร่ม RULES OF INDOOR HOCKEY
นิยามคำศัพท์ TERMINOLOGY
ผู้เล่น (PLAYER)
หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ในทีม
ทีม (TEAM)
ประกอบด้วยผู้เล่นสูงสุด 12คน เป็นผู้เล่นในสนาม 5คน และผู้เล่นสำรอง 7คน
ผู้เล่นในสนาม (FIELD PLAYER)
หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ในสนามซึ่งไม่ใช่ผู้รักษาประตู
ผู้รักษาประตู (GOALKEEPER)
หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันของแต่ละทีมที่อยู่ในสนาม ผู้ซึ่งสวมหรือใส่เครื่องป้องกันเต็มชุดประกอบด้วยอย่างน้อย เครื่องป้องกันศีรษะ, เครื่องป้องกันขา, รองเท้าสำหรับเตะ และผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้ใส่ ชุดถุงมือป้องกันประตู และเครื่องป้องกันอื่นๆ
ผู้เล่นในสนามที่เป็นผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ
(FIELD PLAYER WITH GOALKEEPING PRIVILEGES)
หนึ่งในผู้เล่นในสนามที่ไม่ได้สวมชุดผู้รักษาประตูเต็มชุด แต่เป็นผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ ; ผู้เล่นนี้จะต้องใส่เสื้อสีที่แตกต่างชัดเจนจากคู่แข่งขันทั้งสองทีม
ฝ่ายรุก (ATTACK / ATTACKER)
ทีมหรือผู้เล่นที่พยายามที่จะทำประตู
ฝ่ายรับ (DEFENCE / DEFENDER)
ทีมหรือผู้เล่นที่พยามยามจะป้องกันประตู
เส้นด้านหลังสนาม (BACK-LINE)
เส้นขอบด้านนอกที่สั้นที่สุด(22เมตร)
เส้นประตู (GOAL-LINE)
เส้นออกด้านหลังสนามที่อยู่ระหว่างเสาประตู
กระดานด้านข้างสนาม (SIDE-BOARDS)
กระดานประกอบด้วยความยาว (44เมตร) ตามขอบนอกของสนาม
เขตทำประตู (CIRCLE)
พื้นที่วงกลมที่ล้อมรอบ ประกอบด้วยสองครึ่งของวงกลม และเส้นผ่านจุดศูนย์กลางวางทาบเส้นออกหลังที่ปลายสนามตรงกลางของเส้นออกหลังทั้งสองข้าง
การเล่นบอล – ผู้เล่นในสนาม (PLAYING THE BALL: FIELD PLAYER)
หยุดบอล, เปลี่ยนทิศทางบอล หรือ พาบอลเคลื่อนที่ด้วยไม้
การผลัก (PUSH)
การทำให้ลูกบอลเคลื่อนที่ไปกับพื้นโดยอาศัยการผลัก โดยไม้จะต้องอยู่ใกล้กับลูกในจังหวะเริ่มต้น และหลังจากที่ทำการผลักลูกออกไปแล้วทั้งลูกบอลและหัวไม้จะต้องอยู่กับพื้น
การตวัด (FLICK)
การผลักลูกบอลโดยให้ลูกลอยเหนือพื้นสนาม
การตัก (SCOOP)
การทำให้ลูกลอยขึ้นจากพื้นโดยใช้ด้านหัวไม้วางไว้ใต้ลูกบอลและใช้การเคลื่อนไหวโดยการยกหรืองัดบอลขึ้น
การตี (HIT)ไม่อนุญาตให้ใช้ในอินดอร์ฮอกกี้
การตีลูกโดยอาศัยการเคลื่อนที่โดยการเหวี่ยงไม้ไปกระทบกับลูกบอล
การยิงประตู (SHOT AT GOAL)
การกระทำของผู้เล่นฝ่ายรุกที่พยายามที่จะทำประตูโดยการเล่นบอลตรงไปหาประตูจากภายในเขตยิงประตู
ลูกบอลอาจจะไม่ตรงเข้าหาประตูแต่การกระทำยังถือว่าเป็นการยิงประตูถ้าผู้เล่นเจตนาที่จะทำประตู และลูกตรงเข้าหากรอบของประตู
ระยะของการเล่น (PLAYING DISTANCE)
ระยะห่างที่อยู่ในระยะที่ผู้เล่นจะสามารถเข้าถึงลูกที่จะเล่นได้
การเข้าแย่งบอล (TACKLE)
การกระทำเพื่อหยุดคู่ต่อสู้ที่ครอบครองบอล
การทำผิดกติกา (OFFENCE)
การกระทำที่ขัดกับกติกา และอาจได้รับบทลงโทษจากผู้ตัดสิน
การขอเวลานอก (TIME –OUT)
การขอเวลานอกคือการขัดจังหวะของเกม และในการแข่งขันผู้ที่สามารถขอเวลานอกได้คือหัวหน้าทีม และเจ้าหน้าที่ของทีม
การเล่นฮอกกี้ในร่ม
กติกาข้อที่ 1
สนามแข่งขัน (Field of play)
- สนามเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว00 เมตร กว้าง 22.00 เมตร
แนะนำให้ใช้สนามที่เต็มขนาด สำหรับการแข่งขันในระดับประเทศหรือท้องถิ่นสามารถใช้สนามขนาดเล็กได้คือความยาว 36.00 เมตร และกว้าง 18.00 เมตร
- กระดานข้างสนามคือเส้นกรอบด้านยาวของสนาม เส้นหลังสนามคือเส้นกรอบด้านสั้นของสนาม
- เส้นประตูเป็นส่วนหนึ่งของเส้นหลังสนามซึ่งอยู่ระหว่างเสาทั้งสองข้าง
- เส้นกลางสนามคือเส้นที่ตัดผ่านกึ่งกลางสนาม
- พื้นที่ที่เรียกว่าเขตยิงประตู จะตั้งอยู่ภายในสนาม รอบประตู และอยู่ตรงกลางของเส้นออกหลังของทั้งสองฝั่ง
- จุดโทษเส้นผ่านจุดศูนย์กลาง 100 มม. (10ซม.) อยู่ด้านหน้าจุดกึ่งกลางของประตูทั้งสองฝั่ง มีระยะห่างจากขอบในของเส้นประตู 00 เมตร
- เส้นทั้งหมดในสนามมีความกว้าง 50 มม. (5ซม.) และเป็นส่วนหนึ่งของสนาม
- ประตู ตำแหน่งของประตูอยู่ตรงกลางด้านนอกสนาม และสัมผัสกับเส้นหลัง
ที่นั่งของนักกีฬาสำรองของแต่ละทีมจะอยู่ด้านนอกด้านใดด้านหนึ่งของสนาม ในแต่ละครึ่งของการแข่งขันที่นั่งของนักกีฬาจะอยู่ฝั่งเดียวกับประตูที่ทีมตนเองป้องกัน
กติกาข้อที่ 2
ส่วนประกอบของทีม (Composition of teams)
- จำนวนผู้เล่นสูงสุด 6 คนของแต่ละทีมที่มีส่วนร่วมตลอดการแข่งขัน
ถ้าจำนวนผู้เล่นมีมากกว่าที่กำหนดในสนาม จะต้องหยุดเวลาเพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง ผู้เล่นที่ควรได้รับการลงโทษคือหัวหน้าทีมที่ทำผิดระเบียบ การตัดสินใจดำเนินการก่อนที่จะหยุดเวลาเพื่อแก้ไขสถานการณ์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
การเริ่มเล่นโดยให้ฝ่ายตรงข้ามได้เล่นลูกโทษจากมุม
2.2 แต่ละทีมจะต้องมีผู้รักษาประตู, ผู้เล่นที่ทำหน้าที่เป็นผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ หรือเล่นโดยใช้ผู้เล่นปกติอย่างใดอย่างหนึ่งในสนาม
แต่ละทีมอาจจะเริ่มเล่นโดย
- ผู้รักษาประตู ซึ่งใส่สีเสื้อที่แตกต่าง และใส่ชุดป้องกันเต็มชุดประกอบด้วยอย่างน้อยเครื่องป้องกันศีรษะ, เครื่องป้องกันขา และรองเท้าสำหรับเตะผู้เล่นนี้จะถูกอ้างถึงในกติกานี้ว่าคือผู้รักษาประตู หรือ
- ผู้เล่นในสนามที่ทำหน้าที่ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษสวมเสื้อสีที่แตกต่าง สำหรับผู้ที่สวมเฉพาะเครื่องป้องกันศีรษะ(ไม่ได้ใส่เครื่องป้องกันขา รองเท้าสำหรับเตะ หรือเครื่องป้องกันอื่นๆ) เมื่อบอลอยู่ในครึ่งสนามของตนเอง จะต้องสวมเครื่องป้องกันศีรษะเมื่อจะต้องป้องกันลูกโทษจากมุม และลูกที่จุดโทษผู้เล่นนี้จะถูกอ้างถึงในกติกานี้ว่าคือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ หรือ
- ผู้เล่นปกติ ผู้เล่นที่ไม่ใช่ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ หรือใส่เสื้อสีแตกต่าง ผู้เล่นที่ไม่ได้สวมเครื่องป้องกันศีรษะ ยกเว้นหน้ากากป้องกันลูกในการป้องกันลูกโทษจากมุม และลูกที่จุดโทษ ผู้เล่นทุกคนสวมสีเสื้อเหมือนกัน
การเปลี่ยนตัวผู้เล่นตัวเลือกเหล่านี้กระทำเช่นเดียวกับการเปลี่ยนตัวผู้เล่นทั่วไป
- แต่ละทีมจะได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนตัวจากจำนวนผู้เล่นสูงสุด12คนดังนี้
- การเปลี่ยนตัวอนุญาตให้กระทำได้ทุกช่วงเวลาตลอดการแข่งขันยกเว้นช่วงเวลาที่ทีมใดทีมหนึ่งกำลังเล่นลูกโทษจากมุมจนกระทั่งการเล่นนั้นสิ้นสุดลง ในช่วงเวลาดังกล่าวจะอนุญาตให้มีการเปลี่ยนตัวได้เฉพาะอาการบาดเจ็บ หรือถูกสั่งให้พักการเล่น(ใบเขียว,ใบเหลือง)ของผู้รักษาประตูฝ่ายรับ, ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษของฝ่ายรับ หรือผู้เล่นฝ่ายรับ
ถ้าการเล่นลูกโทษจากมุมเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งก่อนการเล่นครั้งแรกจะสิ้นสุด การเปลี่ยนตัวจะอนุญาตให้เฉพาะจากอาการบาดเจ็บ หรือถูกสั่งให้พักการเล่นของผู้รักษาประตูของฝ่ายรับ หรือผู้เล่นฝ่ายรับที่เล่นเป็นผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ
ในการเล่นลูกโทษจากมุม ผู้รักษาประตูของฝ่ายรับ(สวมชุดป้องกันเต็มชุด)ที่ได้รับอาการบาดเจ็บหรือถูกสั่งให้พักการเล่น อาจจะเปลี่ยนตัวได้กับผู้รักษาประตูเต็มชุดหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ
ในการเล่นลูกโทษจากมุม ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษของฝ่ายรับได้รับบาดเจ็บ หรือถูกสั่งให้พักการเล่น สามารถเปลี่ยนตัวได้กับผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษอีกคนหนึ่ง และต้องไม่ใช่กับผู้รักษาประตู(สวมชุดป้องกันเต็มชุด)
ถ้าทีมที่มีเฉพาะผู้เล่นปกติ จะไม่สามารถเปลี่ยนตัวได้จนกว่าการเล่นลูกโทษจากมุมจะสิ้นสุดลง
ถ้าผู้รักษาประตู หรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ ถูกสั่งให้พักการเล่น ทีมที่ถูกลงโทษจะต้องเล่นโดยมีจำนวนผู้เล่นในสนามน้อยกว่า
- ไม่จำกัดจำนวนคนในการเปลี่ยนตัวแต่ละครั้ง และจำนวนครั้งในการเปลี่ยนตัวของผู้เล่นแต่ละคน ยกเว้นการเปลี่ยนตัวเข้า-ออก ระหว่างผู้รักษาประตูเต็มชุดกับผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษและผู้เล่นในสนาม กำหนดให้เปลี่ยนตัวได้ 2 ครั้งต่อเกม
การเปลี่ยนตัวระหว่างผู้รักษาประตูเต็มชุดด้วยกันสามารถเปลี่ยนตัวได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
ถ้าทีมใช้สิทธิในการเปลี่ยนตัวครบจำนวน 2ครั้งแล้ว และผู้รักษาประตูได้รับบาดเจ็บไม่สามารถเล่นต่อได้ ให้สามารถเปลี่ยนตัวได้กับผู้รักษาประตูเต็มชุดเท่านั้น ถ้าจำเป็นให้การเล่นต่อเนื่องควรเล่นโดยมีผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ หรือผู้เล่นที่สวมเสื้อสีต่าง หรือเล่นโดยใช้ผู้เล่นปกติ ระหว่างการเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตูที่อยู่ระหว่างใส่เครื่องป้องกัน
ในกรณีที่ผู้รักษาประตูได้รับการลงโทษให้พักการเล่นชั่วคราว เมื่อผู้รักษาประตูกลับลงมาในสนาม จะไม่นับจำนวนครั้งของการเปลี่ยนตัว
ถ้าทีมใช้สิทธิในการเปลี่ยนตัวครบจำนวน 2ครั้งแล้ว และผู้รักษาประตูได้รับใบลงโทษซึ่งมีผลให้ พักการเล่น ให้สามารถเปลี่ยนตัวได้กับผู้รักษาประตูเต็มชุดเท่านั้น ถ้าจำเป็นให้การเล่นต่อเนื่องควรเล่นโดยมีผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ หรือผู้เล่นที่สวมเสื้อสีต่าง หรือเล่นโดยใช้ผู้เล่นปกติ ระหว่างการเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตูที่อยู่ระหว่างใส่เครื่องป้องกัน
- การเปลี่ยนตัวอนุญาตให้กระทำได้ต่อเมื่อผู้เล่นที่อยู่ในสนามออกจากสนามแล้วเท่านั้น
- การเปลี่ยนตัวไม่อนุญาตให้กระทำกับผู้เล่นที่อยู่ระหว่างถูกลงโทษให้พักการเล่น
ระหว่างการพักชั่วคราว ทีมทีทำผิดกติกาจะต้องเล่นโดยมีผู้เล่นในสนามน้อยกว่า 1 คน สำหรับแต่ละการพักถาวร ทีมทีทำผิดกติกาต้องเล่นเวลาที่เหลือโดยมีผู้เล่นน้อยกว่า 1 คน
- หลังจากสิ้นสุดการลงโทษให้พักการเล่น ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนตัวได้ทันทีโดยไม่ต้องลงไปในสนาม
- ผู้เล่นจะต้องออกและเข้าสนามในการเปลี่ยนตัวในเขต 3 เมตรกลางสนาม
- เวลาจะไม่หยุดให้ในการเปลี่ยนตัว
เวลาจะไม่หยุดในการเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตูเต็มชุด รวมทั้งการบาดเจ็บของผู้รักษาประตูหรือถูกสั่งลงโทษให้พักการเล่น ถ้าจำเป็นให้การเล่นต่อเนื่องควรเล่นโดยมีผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ หรือผู้เล่นที่สวมเสื้อสีต่าง หรือเล่นโดยใช้ผู้เล่นปกติ ระหว่างการเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตูที่อยู่ระหว่างใส่เครื่องป้องกัน
2.4 ผู้เล่นปกติที่ซึ่งออกจากสนามสำหรับอาการบาดเจ็บ, การเปลี่ยนอุปกรณ์แข่งขัน หรือเหตุผลอื่นๆอนุญาตให้กลับเข้าไปในสนามในบริเวณเขต 3 เมตรกลางสนามด้านที่ใช้ในการเปลี่ยนตัว
2.5 ไม่มีผู้ใดนอกเหนือจากผู้เล่น, ผู้รักษาประตู, ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ และผู้ตัดสิน ที่อนุญาตให้อยู่ ในสนามระหว่างการแข่งขัน นอกเสียจากได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสิน
2.6 ผู้เล่นเข้าหรือออกจากสนามอยู่ภายใต้อำนาจในการตัดสินใจของผู้ตัดสินตลอดการแข่งขันรวมทั้งระหว่างพักครึ่งเวลา
2.7 ผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บ หรือมีเลือดออก จะต้องออกจากสนามนอกจากเว้นแต่ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ และจะต้องไม่กลับเข้ามาในสนามจนกว่าแผลจะถูกปิด ผู้เล่นจะต้องไม่สวมชุดที่เปื้อนเลือดกลับลงสนาม
กติกาข้อที่ 3
หัวหน้าทีม (Captains)
3.1 หนึ่งในผู้เล่นของแต่ละทีมจะต้องได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าทีม
3.2 หัวหน้าทีมคนที่สองจะต้องได้รับการแต่งตั้งทันทีที่หัวหน้าทีมคนแรกถูกลงโทษให้พักถูกการเล่น
3.3 หัวหน้าทีมจะต้องสวมปลอกแขนที่เห็นชัดเจน หรือข้อความที่คล้ายกันบนแขนหรือไหล่
3.4 หัวหน้าทีมจะต้องมีความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของผู้เล่นทุกคนภายในทีม และจะต้องทำให้ มั่นใจว่าการเปลี่ยนตัวผู้เล่นในทีมตนเองนั้นถูกต้อง
การลงโทษบุคคล จะมีผลต่อหัวหน้าทีมทันทีหากหัวหน้าทีมไม่มีความรับผิดชอบต่อเรื่องเหล่านี้
กติกาข้อที่ 4
ชุดแข่งขัน และอุปกรณ์แข่งขัน
(Players’ clothing and equipment)
4.1 ผู้เล่นทีมเดียวกันจะต้องใส่ชุดแข่งขันที่เหมือนกัน
4.2 ผู้เล่นจะต้องไม่สวมใส่สิ่งใดๆที่อาจจะเป็นอันตรายต่อผู้เล่นคนอื่นๆ
ผู้เล่นปกติ
- อนุญาตให้สวมถุงมือป้องกัน ที่ซึ่งไม่ได้มีขนาดใหญ่ หรือเกินขนาดปกติ ถุงมือที่ใช้ป้องกันทั้งสองข้างจะต้องมีขนาดไม่เกิน ยาว 290 mm X กว้าง 180 mm X สูง 110 mm
- ควรสวมสนับแข้ง, อุปกรณ์ป้องกันข้อเท้า และฟันยาง
- อนุญาตให้สวมใส่อุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันร่างกาย อาจจะประกอบด้วย เครื่องป้องกันขา สนับเข่า เมื่อป้องกันลูกโทษจากมุม หรืออาจจะใช้สนับเข่าในการเล่นปกติ ซึ่งจำเป็นจะต้องสวมใส่ด้านนอกถุงเท้า และมีสีเดียวกับถุงเท้า
- อุปกรณ์เหล่านี้อนุญาตให้สวมใส่ตลอดการแข่งขันด้วยเหตุผลทางการแพทย์เท่านั้น เช่น หน้ากากจะต้องเป็นสีเดียว โปร่งใสหรือสีขาว พื้นผิวเรียบ แนบชิดกับใบหน้า, หมวกป้องกันศีรษะแบบนุ่ม, แว่นตา เลนซ์พลาสติค กรอบพลาสติค ซึ่งเหตุผลทางการแพทย์ต้องได้รับการประเมินโดยผู้มีอำนาจเหมาะสม และผู้เล่นที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้าใจในผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในการเล่นด้วยเหตุผลทางการแพทย์
- อนุญาตให้สวมใส่หน้ากากป้องกันที่พื้นผิวเรียบ โปร่งใสหรือสีขาว หรือมีสีเดียวทั้งอัน จะต้องแนบชิดกับใบหน้าเมื่อป้องกันลูกโทษจากมุมและลูกที่จุดโทษ ระยะเวลาที่สวมใส่ในการป้องกันลูกโทษจากมุมและลูกที่จุดโทษที่อยู่ในเขตทำประตูที่ฝ่ายตนเองป้องกัน
- ไม่อนุญาตให้ใส่หน้ากาก เพื่อนำไปสู่อันตรายกับผู้เล่นคนอื่น โดยใช้ความได้เปรียบในการเล่นจากเครื่องป้องกันที่สวมใส่
- ผู้เล่นคนอื่นๆที่ไม่ใช่ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ ไม่อนุญาตให้สวมใส่เครื่องป้องกันศีรษะ(หน้ากาก หรือหมวกป้องกันศีรษะ)ในสถานการณ์อื่นๆ
4.3 ผู้รักษาประตู และผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ จะต้องสวมเสื้อสีล้วน (สีเดียว) หรือสิ่งสวมใส่อื่นๆที่สีต้องแตกต่างกับผู้เล่นทั้งสองทีม
ผู้รักษาประตู(สวมชุดป้องกันเต็มชุด)จะต้องสวมเสื้อ หรือสิ่งสวมใส่อื่นๆช่วงบนของร่างกายที่ใช้ในการป้องกัน
4.4 ผู้รักษาประตู จะต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันซึ่งประกอบด้วยอย่างน้อย เครื่องป้องกันศีรษะ, เครื่องป้องกันขา และรองเท้าสำหรับเตะ เว้นแต่ว่าเครื่องป้องกันศีรษะ และอุปกรณ์ป้องกันแขนสามารถถอดออกได้เมื่อผู้รักษาประตูทำการยิงลูกที่จุดโทษ
ข้อความด้านบนนี้จะอนุญาตให้ใช้ต่อเมื่อผู้รักษาประตูสวมชุดป้องกันเต็มชุดเท่านั้น (อุปกรณ์ป้องกันร่างกายช่วงบน, แขนด้านบน, ข้อศอก, แขนด้านขวา, ตันขา, อุปกรณ์ป้องกันหัวเข่า, อุปกรณ์ป้องกันขา และรองเท้าที่ใช้เตะ)
4.5 ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษอาจสวมใส่เครื่องป้องกันศีรษะ เมื่ออยู่ในเขตครึ่งสนามตนเอง และ สวมใส่เครื่องป้องกันศีรษะเมื่อป้องกันลูกโทษจากมุม หรือลูกที่จุดโทษ
เครื่องป้องกันศีรษะรวมถึงหมวกที่ป้องกันแบบเต็มหน้า และมีที่คลุมตั้งแต่ใบหน้าถึงลำคอ คืออุปกรณ์ที่แนะนำสำหรับผู้รักษาประตู และผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ
4.6 เสื้อผ้าหรืออุปกรณ์ป้องกันที่ทำให้เพิ่มขนาดร่างกายของผู้รักษาประตู หรือพื้นที่ในการป้องกัน ไม่อนุญาตให้ใช้
4.7 ไม้ที่ใช้แข่งขันต้องมีรูปร่างแบบดั้งเดิมทั้งด้ามจับ และความโค้ง มีด้านแบนอยู่ทางด้านซ้าย
ก. ไม้จะต้องราบเรียบ ไม่มีส่วนที่ขรุขระ หรือความคม
ข. รวมสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาในไม้ ไม้จะต้องสามารถผ่านวงแหวนทดสอบที่มีเส้นผ่านจุดศูนย์กลาง 51 มิลลิเมตร
ค. ความโค้งตามแนวยาวของไม้จะต้องราบเรียบตามแนวยาวทั้งหมด และจะต้องผ่านความลึกของไม้ที่ 25 มิลลิเมตร
ง. ไม้จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดที่เห็นชอบโดยคณะกรรมการกฎกติกาของสหพันธ์ฮอกกี้นานาชาติ
4.8 ลูกฮอกกี้เป็นทรงกลม แข็ง และมีสีขาว (หรือสีที่มีการตกลงกันเพื่อให้แตกต่างกับพื้นสนามที่ใช้แข่งขัน)
ข้อกำหนดและรายละเอียดของไม้, ลูก, และอุปกรณ์ของผู้รักษาประตูถูกแยกไว้ตอนท้ายของกติกาเล่มนี้
กติกาข้อที่ 5
การแข่งขันและผลการแข่งขัน (Match and result)
5.1 การแข่งขันประกอบด้วย 2 ครึ่งๆละ 20 นาที และพักระหว่างครึ่ง 5 นาที
ระยะเวลาแข่งขันอื่นๆ และช่วงเวลาพัก อาจตกลงกันระหว่างสองทีม ยกเว้นได้ถูกระบุในกฎระเบียบการแข่งขันโดยเฉพาะ
ถ้าเกิดเหตุการณ์บางสิ่งเกิดขึ้นก่อนที่จะจบครึ่งเวลาแรกหรือจบการแข่งขัน และต้องการคำปรึกษาระหว่างผู้ตัดสิน ความคิดเห็นบางครั้งอาจจะสิ้นสุดไปแล้วก็ตาม การปรึกษาของผู้ตัดสินควรเกิดขึ้นทันทีและกลับไปแก้ไขสถานการณ์ตามความเหมาะสม
5.2 การขอเวลานอก
- ขอได้เมื่อบอลตาย (บอลออกนอกสนาม, ก่อนเล่นลูกกินเปล่า, เริ่มกลางสนาม,ก่อนเล่นบูลลี่) ก่อนที่บอลจะถูกส่งเข้าเล่นอีกครั้ง
- ไม่สามารถจะขอได้เมื่อมีการเล่นลูกโทษจากมุม และการเล่นลูกที่จุดโทษ
- ขอเวลานอกได้ครึ่งเวลาละ 1 ครั้ง
เวลานอกที่ไม่ได้ใช้ในครึ่งเวลาแรกไม่สามารถนำมาใช้ได้ในครึ่งเวลาหลัง
- เวลานอกครั้งละ 1 นาที
ระยะเวลาในการพักจะถูกควบคุมโดยผู้ตัดสิน
- กลับมาเริ่มเกมใหม่โดยการส่งบอลเข้าเล่น ด้วยเล่นลูกกินเปล่า, ส่งกลางสนาม หรือบูลลี่ที่เหมาะสมก่อนที่เวลานอกจะเกิดขึ้น
5.3 ทีมที่ทำประตูได้มากกว่าคือผู้ชนะ ถ้าไม่มีทีมใดทำประตูได้ หรือทั้งสองทีมทำประตูได้เท่ากันผลการแข่งขันคือเสมอ
ข้อกำหนดเกี่ยวกับการต่อเวลาพิเศษ และการแข่งขันยิงลูกที่จุดโทษ ถูกรวบรวมอยู่ในระเบียบการแข่งขันของสหพันธ์ฮอกกี้นานาชาติ
กติกาข้อที่ 6
การเริ่มการแข่งขันและการเริ่มเล่นใหม่
(Start and re-start the match)
6.1 การเสี่ยงเหรียญ
ก. ทีมที่ชนะในการเสี่ยงมีสิทธิเลือกฝั่งประตูที่จะบุกในครึ่งเวลาแรก หรือเริ่มเกมกลางสนาม
ข. ถ้าทีมที่ชนะในการเสี่ยงเลือกฝั่งประตูที่จะบุกก่อนในครึ่งเวลาแรก คู่ต่อสู้จะได้เริ่มเกมกลางสนาม
ค. ถ้าทีมที่ชนะในการเสี่ยงเลือกเริ่มเกมกลางสนามก่อนในครึ่งเวลาแรก คู่ต่อสู้จะได้เลือกว่าจะบุกไปยังด้านใด
6.2 ทิศทางในการเล่นจะเปลี่ยนในครึ่งเวลาหลัง
6.3 เริ่มต้นส่งจากกลางสนาม
ก. เพื่อเริ่มเกมโดยผู้เล่นจากทีมที่ชนะในการเสี่ยงและเลือกที่จะเริ่มเกม หรือมิฉะนั้นโดยทีมคู่ต่อสู้
ข. เพื่อเริ่มเกมอีกครั้งในครึ่งเวลาหลัง โดยผู้เล่นทีมที่ไม่ได้เริ่มเล่นในครึ่งเวลาแรก
ค. หลังจากที่มีการทำประตูได้โดยผู้เล่นฝั่งตรงข้าม
6.4 การส่งลูกจากกลางสนาม
ก. เริ่มส่งจากตรงกลางของสนาม
ข. อนุญาตให้ส่งไปทิศทางใดก็ได้
ค. ผู้เล่นคนอื่นๆยกเว้นผู้เริ่มเล่นจะต้องอยู่ในแดนของตนเองที่ประกอบด้วยประตูและผู้เล่นฝ่ายรับของตนเอง
6.5 การเล่นบูลลี่เพื่อเริ่มการแข่งขันใหม่ เมื่อเวลาหรือการเล่นต้องหยุดลงเนื่องจากการบาดเจ็บหรือเหตุผลอื่นๆ และไม่มีการทำผิดกติกาของทีมใดทีมหนึ่ง
ก. จุดที่เล่นบูลลี่ต้องใกล้เคียงกับจุดที่การเล่นได้หยุดลง แต่ต้องไม่ใช่ในระยะ 9 เมตรจากเส้นด้านหลังสนามและต้องไม่อยู่ในเขต 3 เมตรจากเขตทำประตู
ข. ลูกบอลอยู่ระหว่างผู้เล่นทั้งสองคนที่ซึ่งหันหน้าเข้าหากันโดยให้ประตูฝั่งที่ตนเองป้องกันอยู่ด้านด้านขวามือ
ค. ทั้งสองคนเริ่มเล่นโดยให้ไม้สัมผัสพื้นด้านขวาของลูกบอล และสัมผัสไม้ด้านแบนเหนือลูกบอล 1 ครั้ง หลังจากนั้นถึงอนุญาตให้ผู้เล่นเล่นลูกต่อไปได้
ง. ผู้เล่นคนอื่นๆต้องอยู่ห่างจากลูกบอลอย่างน้อย 5 เมตร
6.6 เมื่อการยิงลูกที่จุดโทษสิ้นสุด และไม่ได้ประตู ให้ฝ่ายรับได้เริ่มเล่นโดยเล่นลูกกินเปล่าในระยะ 15 เมตร ด้านหน้าตรงกลางเขตทำประตู
กติกาข้อที่ 7
ลูกบอลออกนอกสนาม (Ball outside the field)
7.1ลูกบอลจะออกจากการเล่นในสนามต่อเมื่อข้ามผ่านกระดานด้านข้าง หรือเส้นด้านหลังสนามโดยสมบูรณ์
7.2 การเล่นจะเริ่มใหม่โดยผู้เล่นของทีมที่ไม่ได้สัมผัสบอลหรือเล่นเป็นคนสุดท้ายก่อนที่บอลจะออกจากสนาม
- เมื่อบอลออกจากสนามจากกระดานด้านข้าง
- เริ่มเล่นภายในระยะ 1 เมตรตรงจุดที่ลูกบอลข้ามกระดานด้านข้างออกไป
ถ้าเกิดขึ้นในเขตทำประตูโดยผู้เล่นฝ่ายรับเป็นผู้เริ่มเล่นให้เริ่มเล่นใหม่นอกเขตทำประตูในระยะ 1 เมตร และห่างจากกระดานด้านข้าง 1 เมตร แต่ถ้าฝ่ายรุกเป็นผู้เริ่มเล่นให้เริ่มเล่นใหม่นอกเขตทำประตู 3 เมตร และห่างจากกระดานข้าง 1 เมตร
- ใช้ขั้นตอนของการเล่นลูกกินเปล่า
7.4 เมื่อบอลออกจากสนามจากเส้นด้านหลังสนาม และไม่มีการได้ประตูเกิดขึ้น
ก. ถ้าบอลออกเส้นด้านหลังสนามโดยผู้เล่นฝ่ายรุก ให้ฝ่ายรับเริ่มเล่นโดยเล่นลูกกินเปล่าในระยะ 9.10 เมตรจากเส้นออกด้านหลังสนาม และตรงกับจุดที่ลูกออก
ข. ถ้าผู้เล่นฝ่ายรับไม่เจตนาทำให้ลูกบอลออกเส้นด้านหลังสนาม โดยผู้รักษาประตู หรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ และไม่มีการได้ประตูเกิดขึ้น
ค. ใช้ขั้นตอนของการเล่นลูกกินเปล่า
ง. ถ้าเกิดจากการไม่เจตนาของผู้เล่นฝ่ายรับ หรือกระทบผู้รักษาประตู หรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษออกนอกสนาม จะเริ่มเล่นใหม่อีกครั้งโดยผู้เล่นฝ่ายรุกได้เล่น ลูกบริเวณเส้นกลางสนาม จุดที่เริ่มเล่นคือจุดที่ตรงกับจุดที่ลูกออกจากเส้นหลัง
กติกาข้อที่ 8
วิธีการได้ประตู (Method of scoring)
- จะได้ประตูต่อเมื่อลูกบอลได้ถูกเล่นในเขตทำประตูโดยผู้เล่นฝ่ายรุก และไม่ได้ออกจากเขตทำ ประตูก่อนที่จะผ่านข้ามเส้นประตูโดยสมบูรณ์ และอยู่ภายใต้คานประตู
ลูกบอลอาจจะถูกเล่นโดยผู้เล่นฝ่ายรับหรือสัมผัสร่างกายก่อนหรือหลังถูกเล่นในเขตทำประตูโดยผู้เล่นฝ่ายรุก
กติกาข้อที่ 9
ข้อปฏิบัติในการเล่นของผู้เล่น (Conduct of play: players)
ผู้เล่นทุกคนถูกคาดหวังให้ทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบตลอดเวลา
- เป็นการแข่งขันระหว่างสองทีมที่มีผู้เล่นข้างละไม่เกิน 6 คนในสนามตลอดเวลา
- ผู้เล่นในสนามจะต้องถือไม้อยู่ในมือและไม่เล่นในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตราย
ผู้เล่นจะต้องไม่ยกไม้ข้ามศีรษะคู่ต่อสู้
- ผู้เล่นจะต้องไม่ สัมผัส จับ ถือ หรือรบกวน ผู้เล่นคนอื่นตลอดจนไม้ และเสื้อผ้า
- ผู้เล่นจะต้องไม่แสดงอาการขู่ หรือขัดขวางผู้เล่นคนอื่น
- ผู้เล่นจะต้องไม่ตีลูก
“การตบลูก” (Slap) การเคลื่อนที่ของไม้คล้ายการผลักบอลในระยะทางยาวๆ และการกวาดไม้ไปกับพื้นก่อนที่ไม้จะสัมผัสลูกบอล ซึ่งถือว่าเป็นการตี ไม่อนุญาตให้ใช้ในอินดอร์ฮอกกี้
- ผู้เล่นจะต้องไม่เล่นลูกด้วยหลังไม้
- ผู้เล่นจะต้องไม่เล่นลูกบอลด้วยส่วนใดส่วนหนึ่งของไม้เมื่อบอลอยู่สูงกว่าระดับไหล่ ยกเว้นการป้องกันประตูของฝ่ายรับโดยการหยุดหรือเปลี่ยนทางลูก
เมื่อป้องกันลูกบอลบนเส้นประตูผู้เล่นฝ่ายรับจะไม่ถูกลงโทษ ถ้าไม้ของเขาไม่เคลื่อนไหวหรือเคลื่อนที่ไปยังลูกบอลขณะที่พยายามที่จะหยุดหรือเปลี่ยนทางลูกยิงประตู ถ้าลูกบอลถูกตีหรือเล่นเหนือกว่าหัวไหล่อย่างชัดเจน และลูกนั้นไม่เป็นประตู ฝ่ายรุกจะได้ลูกที่จุดโทษทันที
ถ้าผู้เล่นฝ่ายรับพยายามเจตนาหยุดหรือเปลี่ยนทิศทางของลูกเหนือกว่าระดับไหล่ โดยที่ทิศทางของลูกไม่ได้ตรงเข้าหากรอบประตูคู่ต่อสู่จะได้เล่นลูกโทษจากมุม และไม่ใช่ลูกที่จุดโทษ
ถ้าการเล่นที่อันตรายมีผลหลังจากการหยุดบอลหรือเปลี่ยนทิศทางบอลตามกติกา ฝ่ายรุกจะได้เล่นลูกโทษจากมุม
- ผู้เล่นจะต้องไม่เล่นลูกที่อันตราย หรืออาจก่อให้เกิดอันตราย
ลูกที่ถือว่าอันตราย เมื่อมันเป็นสาเหตุของการหลีกเลี่ยงการกระทำที่ถูกต้องของผู้เล่น
การลงโทษจะเกิดขึ้นในจุดที่การเล่นอันตรายเกิดขึ้น
- ผู้เล่นจะต้องไม่ทำลูกให้ลอยพ้นจากพื้นยกเว้นการทำประตู
จะไม่ใช่การทำผิดกติกาหากผู้เล่นไม่ได้เจตนาทำบอลให้สูงขึ้นจากพื้นความสูงไม่เกิน 100 มม. และไม่มีคู่ต่อสู้ในระยะที่สามารถจะเล่นบอลได้
- ผู้เล่นจะต้องไม่พยายามเล่นลูกบอลขณะที่บอลลอยอยู่กลางอากาศ นอกจากผู้เล่นคนนั้นที่ไม่ใช่ทีมที่ทำลูกให้ลอยสูงขึ้นอาจจะทำให้ลูกหยุดกับพื้นได้
ถ้าลูกบอลอยู่ในอากาศจากผลการยิงประตู โดยบอลสัมผัสผู้รักษาประตู, ผู้เล่นฝ่ายรับ, เสาประตู และคานประตู ลูกบอลอาจจะทำให้หยุดกับพื้นได้โดยผู้เล่นทั้งสองทีม
- ผู้เล่นจะต้องไม่เจตนาหยุด เตะ หยิบ ขว้าง หรือพาบอลด้วยส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
ไม่ใช่ความผิดเสมอถ้าลูกบอลสัมผัสกับเท้า, มือ หรือร่างกายของผู้เล่นในสนาม ผู้เล่นจะกระทำผิดกติกาถ้าเจตนาที่จะใช้เท้ามือ หรือร่างกายเล่นลูกบอลหรือถ้าเขาขยับร่างกายของตนเองด้วยความตั้งใจที่จะหยุดลูก
ไม่ถือว่าผิดกติกาถ้าลูกบอลสัมผัสกับมือที่ถือไม้
- ผู้เล่นในสนามจะต้องไม่เล่นลูกบอลขณะนอนอยู่กับพื้น หรือใช้เข่า, แขน และมือที่ไม่ใช่มือที่ถือไม้สัมผัสบนพื้นสนาม
- ผู้เล่นจะต้องไม่กีดขวางการเล่นของคู่ต่อสู้ที่ซึ่งพยายามจะเล่นบอล
ผู้เล่นจะกีดขวางการเล่นถ้าเขา
– เข้าด้านหลังของคู่ต่อสู้
– รบกวนไม้ หรือร่างกายของคู่ต่อสู้
– ปกป้องลูกจากการเข้าแย่งบอลอย่างถูกกติกาด้วยไม้หรือส่วนอื่นๆในร่างกาย
ผู้เล่นที่รับลูกอนุญาตให้หันได้ทุกทิศทาง
ผู้เล่นที่ครอบครองลูกบอลอนุญาตให้เคลื่อนที่ไปทิศทางใดก็ได้ยกเว้นเข้าหาร่างกายของคู่ต่อสู้ หรือเข้าหาตำแหน่งระหว่างลูกบอลและคู่ต่อสู้ที่ซึ่งอยู่ในระยะการเล่นและพยายามที่จะเล่นบอล
ผู้เล่นที่วิ่งอยู่ด้านหน้าหรือกำบังคู่ต่อสู้เพื่อหยุดเขาไม่ให้เล่นบอลหรือพยายามที่จะเล่นบอลมันคือการกีดขวางการเล่น(การกำบังโดยบุคคลที่3) ยังสามารถใช้ได้กับผู้เล่นฝ่ายรุกที่วิ่งตัด หรือกำบังผ่ายรับ(รวมทั้งผู้รักษาประตู หรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ)เมื่อมีการเล่นลูกโทษจากมุม
- ผู้เล่นจะต้องไม่เข้าปะทะ ยกเว้นตำแหน่งที่พยายามจะเล่นบอลโดยปราศจากการสัมผัสถูกตัว
- ผู้เล่นจะต้องไม่เจตนาเข้าไปในประตูคู่ต่อสู้ หรือวิ่งไปมาบริเวณหลังประตูทั้งสองฝั่ง
- ผู้เล่นจะต้องไม่แลกเปลี่ยนไม้กันระหว่างการเล่นลูกโทษจากมุม และลูกที่จุดโทษ
- ผู้เล่นจะต้องไม่โยนชิ้นส่วน หรืออุปกรณ์ใดๆ บนพื้นสนาม, กับบอล, ผู้เล่นคนอื่น และกับผู้ตัดสิน
- ผู้เล่นจะต้องไม่เจตนาถ่วงเวลา
- ผู้เล่นจะต้องไม่เจตนาเอาบอลยึดติดไว้ที่ชิ่งด้านข้าง
ถ้าลูกถูกยึดติดระหว่างไม้ผู้เล่นทั้งสองทีม ผู้ตัดสินจะให้เล่นลูกบูลลี่
กติกาข้อที่ 10
ข้อปฏิบัติในการเล่นของผู้รักษาประตู และผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ
(Conduct of play: goalkeepers and player with goalkeeping privileges)
10.1 ผู้รักษาประตูที่สวมชุดป้องกันเต็มชุด หรืออย่างน้อยสวมเฉพาะเครื่องป้องกันศีรษะ เครื่องป้องกันขา และรองเท้าสำหรับเตะ จะต้องไม่ออกไปเล่นนอกเขตครึ่งสนามในแดนของตัวเอง ยกเว้นการยิงลูกที่จุดโทษ
เครื่องป้องกันศีรษะผู้รักษาประตูจะต้องสวมใส่ตลอดเวลา ยกเว้นการยิงลูกที่จุดโทษ
10.2 ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ จะต้องไม่ออกไปเล่นนอกเขตครึ่งสนามในแดนของตัวเองขณะที่สวมเครื่องป้องกันศีรษะ แต่ถ้าถอดหน้าเครื่องป้องกันศีรษะออกสามารถออกไปเล่นได้ทั้งสนาม
เครื่องป้องกันศีรษะผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษจะต้องสวมใส่ตลอดเวลา เมื่อป้องกันลูกโทษจากมุมหรือลูกที่จุดโทษ
10.3 เมื่อบอลอยู่ในเขตทำประตูของฝ่ายรับ และมีไม้อยู่ในมือ
ก. ผู้รักษาประตูที่สวมชุดป้องกันเต็มชุด อนุญาตให้ใช้ไม้ เท้า, เครื่องป้องกันขา, รองเท้าในการทำให้บอลเคลื่อนที่ และใช้ไม้, เท้า, รองเท้าสำหรับเตะ, ขา, เครื่องป้องกันขา หรือส่วนอื่นๆในร่างกายหยุด หรือเปลี่ยนทิศทางบอลได้ทุกทิศทาง รวมถึงทำให้ลูกข้ามเส้นออกด้านหลัง
ผู้รักษาประตูไม่อนุญาตให้เล่นในลักษณะที่อันตรายโดยการใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ที่ตนเองสวมใส่อยู่
ข. ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ อนุญาตให้ใช้ไม้, เท้า, ขา ในการทำให้บอลเคลื่อนที่ และใช้ไม้, เท้า, ขา หรือส่วนอื่นๆในร่างกายหยุด หรือเปลี่ยนทิศทางบอลได้ทุกทิศทาง รวมถึงทำให้ลูกข้ามเส้นออกด้านหลัง
ค. ผู้รักษาประตูที่สวมชุดป้องกันเต็มชุด และผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ อนุญาตให้ใช้แขน, มือ, และส่วนอื่นๆในร่างกายผลักบอลออกไป
การกระทำในกฎข้างต้นนั้นอนุญาตเพียงแค่ในส่วนของจังหวะในการป้องกันประตู หรือทำให้บอลเคลื่อนที่ออกจากจังหวะการทำประตูของฝ่ายตรงข้าม ไม่อนุญาตให้ผู้รักษาประตูหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษทำให้บอลเคลื่อนที่โดยใช้กำลังจากแขน, มือ, หรือร่างกายที่ใช้ระยะทางที่มากเกินไป
10.4 ผู้รักษาประตูเต็มชุด และผู้เล่นรักษาประตูสิทธิพิเศษ ห้ามนอนทับลูก
10.5 เมื่อลูกบอลอยู่นอกเขตทำประตูที่ผู้รักษาประตูป้องกันอยู่ผู้รักษาประตู หรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ อนุญาตให้เล่นบอลได้เฉพาะไม้เหมือนกับผู้เล่นปกติในสนาม
ผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษถือว่าเป็นผู้เล่นในสนามเมื่ออยู่นอกเขตทำประตูที่ตนเองป้องกันอยู่
10.6 ผู้รักษาประตู และผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษอนุญาตให้เล่นบอลในเขตทำประตูโดยนอนเล่นกับพื้นในเขตทำประตูได้
กติกาข้อที่ 11
ข้อปฏิบัติของผู้ตัดสิน (Conduct of play: umpires)
- ผู้ตัดสิน 2 คนควบคุมการแข่งขัน ควบคุมการเล่นให้เป็นไปตามกติกา และให้ความยุติธรรม
- ผู้ตัดสินแต่ละคนมีความรับผิดชอบในการตัดสินใจครึ่งหนึ่งของสนามตลอดการแข่งขัน
- ผู้ตัดสินแต่ละคนรับผิดชอบในการตัดสินใจในลูกกินเปล่าในเขตทำประตู, ลูกโทษจากมุม, ลูกที่จุดโทษ และการได้ประตูในครึ่งสนามที่ตนเองรับผิดชอบ
- ผู้ตัดสินมีความรับผิดชอบต่อการบันทึกผลการได้ประตู, การให้ใบลงโทษ, และการพักการเล่น
- ผู้ตัดสินมีความรับผิดชอบในเรื่องเวลาของการแข่งขันให้ใช้เวลาเต็มในการเล่น, แจ้งถึงการหมดเวลาทั้งในครึ่งเวลาแรกและครึ่งเวลาหลัง และการสิ้นสุดเวลาของการเล่นลูกโทษจากมุม ถ้าเวลานั้นได้ได้ถูกขยายออกไปเพราะการเล่นลูกโทษจากมุม
- ผู้ตัดสินจะให้สัญญาณนกหวีดเพื่อ
- เริ่มต้นและสิ้นสุดการแข่งขันในแต่ละครึ่งเวลา
- เริ่มเล่นบูลลี่
- ลงโทษผู้เล่น
- เริ่มต้นและสิ้นสุดการยิงลูกที่จุดโทษ
- ให้สัญญาณการได้ประตู
- เริ่มเกมหลังจากมีการทำประตู
- เริ่มเกมหลังจากการยิงลูกที่จุดโทษ เมื่อไม่มีประตูเกิดขึ้น
- หยุดการแข่งขันสำหรับการเปลี่ยนผู้รักษาประตูเต็มชุด และเริ่มเกมเมื่อการเปลี่ยนตัวเสร็จสิ้น
- หยุดเกมสำหรับเวลานอก และเริ่มต้นใหม่หลังจากเวลานอกสิ้นสุด
- หยุดการแข่งขันไม่ว่าเหตุผลใดๆ และเริ่มต้นใหม่
- ให้สัญญาณเมื่อจำเป็น เมื่อลูกบอลผ่านเส้นทั้งลูกออกจากสนาม
- ผู้ตัดสินจะต้องไม่สอนหรือโค้ชตลอดทั้งเกม
- ถ้าลูกบอลสัมผัสกับผู้ตัดสิน, บุคคลอื่น หรือวัตถุใดๆในสนาม ให้เกมดำเนินต่อไป
กติกาข้อที่ 12
การลงโทษ(Penalties)
- การได้เปรียบ: การลงโทษจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นหรือทีมถูกเอาเปรียบอย่างชัดเจนจากคู่ต่อสู้ที่ทำการละเมิดกติกา
ถ้าให้การลงโทษแล้วไม่เกิดการได้เปรียบของทีมที่ซึ่งไม่ได้ละเมิดกติกา การเล่นให้ดำเนินต่อไป
- การได้ลูกกินเปล่า
- การทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรุกภายในเขตครึ่งสนามของฝ่ายรับ
- การไม่เจตนาทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรับนอกเขตทำประตู แต่อยู่ในเขตครึ่งสนามของฝ่ายรับ
- การได้ลูกโทษจากมุม
- การทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรับในเขตทำประตู ซึ่งไม่ได้ขัดขวางโอกาสที่จะทำประตูของฝ่ายรุก
- การเจตนาทำผิดกติกาในเขตทำประตูโดยผู้เล่นฝ่ายรับต่อคู่ต่อสู้ที่ซึ่งไม่ได้ครอบครองลูกบอลหรือมีโอกาสที่จะเล่นลูกบอล
- การเจตนาทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรับนอกเขตทำประตูแต่อยู่ภายในเขตครึ่งสนามของฝ่ายรับ
- การเจตนาทำให้ลูกบอลข้ามเส้นออกด้านหลังโดยผู้เล่นฝ่ายรับ
ผู้รักษาประตูหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษอนุญาตให้เปลี่ยนทิศทางลูกบอลด้วยไม้, เครื่องป้องกันต่างๆ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายในทิศทางใดก็ได้รวมทั้งเส้นออกด้านหลัง
- เมื่อทีมใดทีมหนึ่งทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่นไม่ถูกต้อง
- เมื่อลูกบอลติดอยู่ในชุดหรืออุปกรณ์ของผู้เล่นฝ่ายรับขณะอยู่ในเขตทำประตู
- การได้ลูกที่จุดโทษ
- การทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรับในเขตทำประตูที่ซึ่งขัดขวางโอกาสในการทำประตู
- การเจตนาทำผิดกติกาในเขตทำประตูโดยผู้เล่นฝ่ายรับกับคู่ต่อสู้ที่ครอบครองบอลหรือมีโอกาสที่จะเล่นบอล
- ผู้เล่นฝ่ายรับออกจากเส้นออกหลังหรือเส้นประตูก่อนสัญญาณหลายครั้งติดต่อกันในขณะที่ฝ่ายรุกเล่นลูกโทษจากมุม
- ถ้ามีการทำผิดกติกาหรือผิดข้อปฏิบัติก่อนที่จะมีการลงโทษเกิดขึ้น
- การลงโทษที่สูงยิ่งขึ้น
- ให้การลงโทษส่วนบุคคล
- การได้เล่นลูกกินเปล่าอาจจะย้อนกลับมาให้อีกฝ่ายได้ ถ้าการทำผิดกติกาต่อมาถูกกระทำโดยฝ่ายที่ได้เปรียบในครั้งแรก
กติกาข้อที่ 13
วิธีการเล่นสำหรับการลงโทษต่างๆ
(Procedures for taking penalties)
13.1 จุดที่เล่นลูกกินเปล่า
ก. ลูกกินเปล่าให้เล่นใกล้กับจุดที่เกิดเหตุ
“ใกล้” หมายถึง การเล่นในระยะจุดที่เกิดการทำผิดกติกาเกิดขึ้น และต้องไม่ได้เปรียบจนมากเกินไป
จุดที่เล่นลูกกินเปล่าจะต้องตรงจุดที่เกิดเหตุมากที่สุดบริเวณใกล้กับเขตทำประตู
ข. ฝ่ายรับได้เล่นลูกกินเปล่านอกเขตทำประตู แต่อยู่ในระยะ 9 เมตรจากเส้นหลัง ให้นำลูกขึ้นมาเริ่มเล่นในระยะ 9.10 เมตร และขนานกับเส้นข้างสนาม
ค. ฝ่ายรับได้เล่นลูกกินเปล่าในเขตทำประตู สามารถเริ่มเล่นได้ในเขตทำประตูใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ หรือนำลูกขึ้นมาเล่นในระยะ 9.10 เมตร และขนานกับเส้นข้างสนาม
13.2 ขั้นตอนการเล่นลูกกินเปล่า, การเริ่มเล่นจากลางสนาม และการส่งลูกเข้าเล่นจากข้างสนาม
ในส่วนต่างๆของข้อนี้(13.2) ใช้บังคับกับการเล่นลูกกินเปล่า, การเริ่มเล่นจากลางสนาม และการส่งลูกเข้าเล่นจากข้างสนาม
- ลูกบอลจะต้องอยู่นิ่งกับพื้น
- คู่ต่อสู่จะต้องอยู่ห่างจากบอลอย่างน้อย 3 เมตร
ถ้าคู่ต่อสู้อยู่ในระยะ 3 เมตรจากลูกบอลจะต้องไม่รบกวน หรือพยายามที่จะเล่นลูกนั้น ถ้าคู่ต่อสู้ไม่ได้รบกวน หรือพยายามที่จะเล่นลูกนั้น ผู้ตัดสินจะให้การเล่นลูกกินเปล่านั้นดำเนินต่อไป
- ถ้าเป็นการเล่นลูกกินเปล่าภายในเขตครึ่งสนามของฝ่ายรุก ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะต้องอยู่ห่างจากบอลอย่างน้อย 3 เมตร
- ลูกบอลจะต้องเคลื่อนที่โดยการผลักเท่านั้น
- การเล่นลูกกินเปล่าของฝ่ายรุกในเขตครึ่งสนามของฝ่ายรับ ลูกบอลจะต้องไม่ถูกส่งเข้าเล่นภายในเขตทำประตูโดยตรง บอลอาจจะเข้าไปในเขตทำประตูทันทีหลังจากสัมผัสกระดานด้านข้างแล้ว หรือบอลจะต้องถูกส่งไปอย่างน้อย 3 เมตร และสัมผัสกับผู้เล่นทีมหนึ่งทีมใดก่อนนอกเหนือจากผู้ที่เล่นลูกกินเปล่า หรือสัมผัสกระดานด้านข้างก่อน
ถ้าผู้เล่นที่เล่นลูกกินเปล่ายังคงเล่นลูกต่อไป(ไม่มีผู้เล่นคนอื่นได้เล่นบอล)
- ผู้เล่นคนนั้นอาจจะเล่นลูกบอลได้หลายๆครั้ง,
- แต่ลูกบอลจะต้องเคลื่อนที่อย่างน้อย 3 เมตร,
- ก่อนที่ผู้เล่นคนนั้นจะเล่นบอลเข้าไปในเขตทำประตูโดยการผลักบอล
อีกทางเลือกหนึ่ง
- หลังจากผู้เล่นฝ่ายรับสัมผัสลูกบอล ลูกบอลจะสามารถถูกส่งเข้าไปในเขตทำประตูโดยผู้เล่นคนอื่นๆ รวมทั้งผู้เล่นที่เล่นลูกกินเปล่านี้
- ในการเล่นลูกกินเปล่าที่อยู่ภายในเขต 3 เมตรจากเขตทำประตู ลูกบอลไม่สามารถถูกเล่นเข้าไปในเขตทำประตูได้ จนกระทั่งลูกบอลถูกทำให้เคลื่อนที่อย่างน้อย 3 เมตร หรือลูกบอลสัมผัสกับผู้เล่นฝ่ายรับ หรือลูกบอลถูกทำให้เคลื่อนที่อย่างน้อย 3 เมตรก่อนที่มันจะสัมผัสกับกระดานด้านข้าง
- ผู้เล่นฝ่ายรับที่อยู่ในเขตทำประตู และอยู่ห่างจากบอลไม่ถึง 3 เมตร จะต้องไม่รบกวนการเล่น และสามารถเคลื่อนที่ภายในเขตทำประตูตามผู้เล่นฝ่ายรุกที่เล่นลูกบอลได้ ห้ามรบกวนการเล่นจนกว่าลูกบอลจะถูกทำให้เคลื่อนที่อย่างน้อย 3 เมตร หรือลูกบอลสัมผัสกับผู้เล่นฝ่ายรับ หรือลูกบอลถูกทำให้เคลื่อนที่อย่างน้อย 3 ก่อนที่ลูกบอลจะสัมผัสกับกระดานด้านข้าง
- ผู้เล่นที่อยู่ด้านใน หรือด้านนอกของเขตทำประตู ซึ่งอาจจะอยู่ในระยะ 3 เมตร หรือมากกว่า ไม่อนุญาตให้เคลื่อนที่เข้ามาในขณะผู้เล่นฝ่ายรุกเล่นลูก และจะต้องยืนนิ่งกับที่ภายในระยะ 3 เมตรจากจุดที่เล่นลูกกินเปล่า
- ไม่ว่าการเล่นบอลใดๆ ถ้าผู้เล่นพยายามที่จะเล่นบอล หรือรบกวนการเล่นบอล โดยผู้เล่นที่อยู่ในระยะ 3 เมตรจากจุดเริ่มเล่นลูกกินเปล่า จะต้องถูกลงโทษตามกติกาทันที
- ถ้าจุดเล่นลูกกินเปล่าอยู่ในเขตครึ่งสนามของฝ่ายรับ ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะต้องอยู่ห่างจากบอลอย่างน้อย 3 เมตร ยกเว้นผู้เล่นที่เล่นลูกกินเปล่า
- การเล่นลูกโทษจากมุม
- ลูกบอลจะวางบนเส้นด้านหลังสนามอย่างน้อย 6 เมตร จากเสาประตูด้านที่ฝ่ายรุกเลือก
- ฝ่ายรุกส่งลูกบอลเข้าเล่นโดยต้องไม่เจตนาทำลูกให้ลอยขึ้น
- ฝ่ายรุกที่ส่งบอลเข้าเล่นจะต้องมีเท้าใดเท้าหนึ่งอยู่นอกสนาม
- ฝ่ายรุกที่เหลือต้องอยู่ในสนาม นอกเขตทำประตูทั้งไม้, มือ และเท้าห้ามสัมผัสพื้นในเขตทำประตู
- ไม่มีผู้เล่นฝ่ายรับและฝ่ายรุก นอกเหนือจากฝ่ายรุกที่ส่งบอลเข้าเล่นที่อนุญาตให้อยู่ในระยะ 3 เมตรจากลูกบอลเมื่อมีการผลักหรือตีลูก
- ผู้รักษาประตู หรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ ต้องยืนอยู่ด้านในประตู ผู้เล่นฝ่ายรับมากกว่า 5 คนที่เหลือยืนอยู่หลังเส้นออกด้านหลังฝั่งตรงข้ามกับผู้เปิดของฝ่ายรุก ห้ามส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย และไม้สัมผัสในเขตทำประตู
ถ้าทีมฝ่ายรับเลือกป้องกันลูกโทษจากมุมโดยใช้ผู้เล่นในสนามทั้งหมด ไม่มีผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ ผู้เล่นทั้งหมดยืนหลังเส้นออกด้านหลังฝั่งตรงข้ามกับผู้เปิดของฝ่ายรุกและจะต้องใช้ไม้เพียงอย่างเดียวในการป้องกันประตู
- ผู้เล่นฝ่ายรับที่ไม่ได้อยู่หลังเส้นออกด้าน ต้องยืนอยู่หลังเส้นกลางสนาม
- ก่อนที่บอลจะถูกส่งเข้าเล่น ห้ามฝ่ายรุกนอกจากผู้เล่นที่ส่งบอลเข้าเล่นเข้ามาในเขตทำประตู และไม่มีฝ่ายรับวิ่งออกจากเส้นจากเส้นออกด้านหลัง และเส้นกลางสนามโดยเด็ดขาด
- หลังจากการส่งบอลเข้าเล่นแล้วผู้เล่นที่ส่งบอลห้ามสัมผัสลูกอีกครั้ง จนกระทั้งลูกนั้นสัมผัสกับผู้เล่นคนอื่นแล้ว
- จะทำประตูไม่ได้จนกว่าลูกบอลจะถูกส่งออกไปเล่นนอกเขตทำประตู
“การกวาดลูก” ที่ซึ่งใช้การผลักบอลในระยะไกล หรือการเคลื่อนที่ของไม้ด้วยการกวาดก่อนที่จะสัมผัสกับลูกบอลถือว่าเป็นการตี
ฝ่ายรับที่วิ่งเข้าหาวิถีลูกหรือเข้าหาผู้ยิง โดยไม่พยายามที่จะเล่นลูกบอลด้วยไม้จะต้องถูกลงโทษสำหรับการเล่นที่อันตราย
ถ้าผู้เล่นฝ่ายรับที่วิ่งออกมาเพื่อป้องกัน ถ้าลูกโดนต่ำกว่าเข่าในระยะ 3 เมตร ฝ่ายรุกจะได้เล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้งหนึ่ง และถ้าลูกสัมผัสเหนือเข่าของผู้เล่นฝ่ายรับในท่าทางปกติ ฝ่ายรับจะได้ลูกกินเปล่า
- กฎการเล่นลูกโทษจากมุมจะไม่ใช้ ถ้าลูกบอลเคลื่อนที่มากกว่า 3 เมตรออกจากเขตทำประตู
13.4 การแข่งขันจะเพิ่มเวลาขึ้นในช่วงครึ่งเวลาแรกและช่วงจบเกม เพื่อให้สิ้นสุดในการเล่นลูกโทษจากมุม หรืออาจจะตามมาด้วยลูกโทษจากมุมอีกครั้ง หรือลูกที่จุดโทษ
13.5 ลูกโทษจากมุมจะสิ้นสุดต่อเมื่อ
ก. มีการได้ประตู
ข. ฝ่ายรับได้ลูกกินเปล่า
ค. บอลถูกส่งออกไปนอกเขตยิงประตูเกิน 3 เมตร
ง. บอลถูกส่งข้ามออกไปเส้นด้านหลังสนาม และไม่ใช่การเล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้ง
จ. กองหลังกระทำผิดกติกาซึ่งไม่มีผลต่อการได้ลูกโทษจากมุมอีกครั้ง
ฉ. ฝ่ายรุกได้ลูกที่จุดโทษ
ช. ได้ลูกบูลลี่
ถ้าการเล่นหยุดลงเนื่องจากสาเหตุการบาดเจ็บ หรือเหตุผลอื่นๆระหว่างเล่นลูกโทษจากมุมในช่วงที่หมดเวลาไปแล้วในครึ่งแรกหรือครึ่งหลังและเป็นการบูลลี่ ลูกโทษจากมุมจะต้องเล่นใหม่อีกครั้ง
13.6 ลูกโทษจากมุมในช่วงหมดเวลาในครึ่งเวลาแรกและครึ่งเวลาหลังจะสิ้นสุดด้วยเช่นกันถ้าลูกบอลออกนอกเขตทำประตูเป็นครั้งที่สอง
- การทำผิดกติการะหว่างการเล่นลูกโทษจากมุม
- ผู้เล่นที่ส่งบอลเข้าเล่นจากเส้นออกด้านหลังไม่ได้มีเท้าอย่างน้อย 1 ข้างอยู่นอกสนาม ให้เล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้ง
- ผู้เล่นที่ส่งบอลเข้าเล่นจากเส้นออกด้านหลัง ใช้ร่างกายหลอกล่อ หรือทำให้ฝ่ายรับเสียจังหวะ จะต้องถูกส่งขึ้นยืนที่เส้นกลางสนามจะถูกแทนที่ด้วยผู้เล่นอีกคนหนึ่ง และให้เล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้ง
- ผู้เล่นฝ่ายรับ (คนอื่นๆที่ไม่ใช่ผู้รักษาประตู) ข้ามเส้นประตูหรือเส้นออกด้านหลังก่อนได้รับอนุญาต จะต้องถูกส่งขึ้นยืนที่เส้นกลางสนามไม่สามารถทดแทนด้วยผู้เล่นคนอื่น และให้เล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้ง
ในการเล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้ง ถ้าผู้เล่นยังคงข้ามเส้นประตูหรือเส้นออกด้านหลังก่อนได้รับอนุญาต จะต้องถูกส่งขึ้นยืนที่เส้นกลางสนามไม่สามารถทดแทนด้วยผู้เล่นคนอื่น และให้เล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้งเช่นเดียวกัน
ถ้าผู้เล่นฝ่ายรับข้ามเส้นกลางสนามก่อนได้รับอนุญาต ให้เล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้ง
- ผู้รักษาประตู หรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ ข้ามเส้นประตูก่อนได้รับอนุญาต ผู้เล่นฝ่ายรับจะต้องเล่นโดยมีผู้เล่นน้อยกว่าเดิม 1 คน และให้เล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้ง
ผู้เล่นฝ่ายรับเลือกผู้เล่นหนึ่งคนที่จะต้องไปยืนที่เส้นกลางสนาม และไม่สามารถทดแทนด้วยผู้เล่นคนอื่น
ในการเล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้ง ถ้าผู้รักษาประตู หรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษยังคงข้ามเส้นประตูก่อนได้รับอนุญาต จะต้องถูกส่งขึ้นยืนที่เส้นกลางสนามไม่สามารถทดแทนด้วยผู้เล่นคนอื่น และให้เล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้งเช่นเดียวกัน
การเล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้งจะเล่นได้ต่อเนื่อง จนกระทั่งเข้ากฏข้อ 13.5 ในการเล่นปกติ และข้อ 13.6 ในการเล่นครั้งสุดท้ายก่อนพักครึ่งแรก หรือหมดเวลาแข่งขัน
การเล่นลูกโทษจากมุมหลังจากการเล่นอีกครั้งเสร็จสิ้นลง ทีมฝ่ายรับสามารถกลับมาใช้ผู้เล่นเท่ากับปกติ 6 คน
- ผู้เล่นฝ่ายรุกเข้าไปในเขตทำประตูก่อนได้รับอนุญาต จะต้องถูกส่งขึ้นยืนที่เส้นกลางสนามและให้เล่นลูกโทษจากมุมอีกครั้ง
ผู้เล่นฝ่ายรุกที่ถูกส่งไปยืนที่เส้นกลางสนาม ไม่สามารถกลับมาเล่นลูกโทษจากมุมในครั้งนั้นได้ แต่สามารถกลับมาเล่นได้หลังจากการเล่นในครั้งนั้นสิ้นสุดลง (กติกาข้อ 13.5 และ13.6)
- การทำผิดกติกาอื่นๆของผู้เล่นฝ่ายรุก ฝ่ายรับจะได้เล่นลูกกินเปล่า
- การเล่นลูกที่จุดโทษ
- เมื่อมีการให้ลูกที่จุดโทษเวลาและการเล่นจะต้องหยุด
- ผู้เล่นทุกคนในสนามยกเว้นผู้ยิงและผู้เล่นที่ป้องกันให้ยืนอยู่หลังเส้นกลางสนาม และต้องไม่รบกวนการเล่นลูกที่จุดโทษ
- ลูกบอลจะต้องวางบนจุดโทษ
- ก่อนที่จะยิงผู้ที่ยิงจะต้องยืนด้านหลังและอยู่ในระยะที่สามารถเล่นลูกบอลได้
- ผู้เล่นที่ป้องกันคือผู้รักษาประตูหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษต้องยืนเท้าทั้งสองบนเส้นประตู และจะต้องไม่เคลื่อนเท้าออกนอกเส้นประตูจนกว่าลูกบอลได้ถูกเล่นแล้ว
- ถ้าผู้เล่นที่ป้องกันคือผู้รักษาประตูหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษจะต้องสวมเครื่องป้องกันศีรษะ ถ้าเป็นผู้เล่นคนอื่นๆที่เป็นผู้เล่นในสนามจะต้องสวมหน้ากากในการป้องกัน
ถ้าทีมที่ป้องกันลูกที่จุดโทษเลือกที่จะเล่นเพียงแค่ผู้เล่นในสนาม และไม่มีผู้รักษาประตูสำรองหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษในการป้องกัน ผู้เล่นที่ป้องกันใช้ได้เพียงแค่ไม้ในการป้องกันประตู
- ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดต่อเมื่อผู้เล่นทั้งสองฝ่ายอยู่ในตำแหน่งที่พร้อม
- ผู้เล่นที่ยิงลูกที่จุดโทษจะต้องไม่ยิงจนกว่าจะได้ยินสัญญาณจากผู้ตัดสิน
ผู้เล่นที่ยิงและผู้เล่นที่ป้องกันจะต้องไม่เจตนาทำให้การยิงนั้นช้า
- ผู้ยิงจะต้องไม่หลอกล่อขณะยิงประตู
- ผู้เล่นที่ยิงลูกที่จุดโทษต้องผลัก ตวัด หรือตักลูก และอนุญาตให้บอลลอยได้ทุกความสูง
การ”พาบอลหรือลากบอล”ไปกับพื้นก่อนยิงประตู ในลูกที่จุดโทษไม่อนุญาตให้ใช้
- ผู้เล่นที่ยิงลูกที่จุดโทษจะต้องเล่นบอลเพียงแค่ครั้งเดียว และต้องไม่เข้าไปใกล้ทั้งบอลหรือผู้เล่นที่ป้องกันประตู
- ลูกที่จุดโทษจะสิ้นสุดเมื่อ
- ลูกนั้นได้ประตู
- ลูกบอลยังอยู่ในเขตทำประตู, อยู่ในเครื่องป้องกันของผู้รักษาประตู, ลูกบอลถูกป้องกันโดยผู้รักษาประตูหรือผู้รักษาประตูสิทธิพิเศษ หรือออกนอกเขตทำประตู
13.10 การทำผิดกติการะหว่างการยิงลูกที่จุดโทษ
- การยิงถูกกระทำก่อนสัญญาณนกหวีด และลูกนั้นเป็นประตู ให้ยิงลูกที่จุดโทษอีกครั้ง
- การยิงถูกกระทำก่อนสัญญาณนกหวีด และลูกนั้นไม่เป็นประตู ให้ฝ่ายป้องกันได้เล่นลูกกินเปล่า
- การทำผิดกติกาใดๆของผู้เล่นที่ยิง ให้ฝ่ายป้องกันได้เล่นลูกกินเปล่า
- การทำผิดกติกาใดๆของผู้เล่นที่ป้องกัน รวมถึงการขยับขาข้างใดข้างหนึ่งก่อนที่ลูกบอลจะถูกยิง ให้ยิงลูกที่จุดโทษอีกครั้ง
ถ้าผู้เล่นที่ป้องกันประตูป้องกันลูกที่จะเป็นประตูได้แต่เคลื่อนเท้าข้างใดข้างหนึ่งก่อนที่บอลจะถูกเล่น ผู้เล่นคนนั้นจะต้องได้รับการเตือน(ใบเขียว) และถ้าทำผิดกติกาอีกครั้งจะต้องโดนพักการเล่น(ใบเหลือง)
ถ้าลูกนั้นเป็นประตูถึงแม้จะเป็นการทำผิดกติกาโดยฝ่ายป้องกัน ให้ลูกนั้นเป็นประตู
- การทำผิดกติกาโดยผู้เล่นที่ป้องกัน และลูกนั้นไม่เป็นประตู ให้ยิงลูกที่จุดโทษอีกครั้ง
- การทำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรุกคนอื่นๆที่ไม่ใช่ผู้ยิง และลูกนั้นเป็นประตู ให้ยิงลูกที่จุดโทษอีกครั้ง
กติกาข้อที่ 14
การลงโทษส่วนบุคคล (Personal penalties)
- สำหรับการทำผิดกติกาใดๆของผู้เล่นอาจจะ
- ตักเตือนด้วยวาจา
- พักการเล่นชั่วคราว 1 นาที (ใบเขียว)
- พักการเล่นชั่วคราวอย่างน้อย 2 นาที (ใบเหลือง)
ระยะเวลาของการพักการเล่นของผู้เล่นในหรือนอกสนาม ทีมที่ทำผิดกติกาต้องเล่นโดยมีผู้เล่นน้อยกว่า 1 คน
- พักการเล่นถาวร (ใบแดง)
การพักการเล่นตลอดเกม ทีมที่ทำผิดกติกาเล่นในเวลาที่เหลือโดยมีผู้เล่นน้อยกว่า 1 คน
การลงโทษส่วนบุคคลอาจได้รับมากไปกว่าโทษที่เหมาะสม
14.2 ผู้เล่นที่ถูกสั่งพักชั่วคราว ต้องออกไปนั่งพักในที่ที่กรรมการกำหนด จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสินที่ให้ใบลงโทษให้กลับเข้าไปเล่น
14.3 ผู้เล่นที่ถูกสั่งพักชั่วคราว อาจจะกลับไปฝั่งของตัวเองได้ในระหว่างพักครึ่งเวลา และกลับมานั่งต่อจนครบกำหนดเวลา
14.4 ระยะเวลาพักที่กำหนดไว้สามารถเพิ่มขึ้นได้สำหรับผู้เล่นที่ประพฤติผิดซ้ำขณะถูกพักการเล่น
14.5 ผู้เล่นที่ถูกสั่งพักถาวรจะต้องออกจากสนาม และพื้นที่โดยรอบสนาม
การทำหน้าที่ผู้ตัดสิน (Umpiring)
กติกาข้อที่ 1
วัตถุประสงค์(Objective)
1.1 การตัดสินฮอกกี้เป็นงานที่ท้าทายความสามารถ และเป็นวิธีที่ดีที่ทำให้ผู้ตัดสินมีส่วนร่วมกับเกมแข่งขัน
- ผู้ตัดสินสามารถให้การสนับสนุนเกมการแข่งขันได้โดย
- ช่วยยกระดับมาตรฐานของเกมในทุกระดับ โดยทำให้มั่นใจว่าผู้เล่นปฏิบัติตามกฎกติกา
- ทำให้มั่นใจว่าทุกเกมเล่นด้วยน้ำใจนักกีฬาที่ดีงาม
- ช่วยเพิ่มความสนุกสนานของเกมสำหรับผู้เล่น, คนดู และคนอื่นๆ
- วัตถุประสงค์ในการทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสิน
- ความสม่ำเสมอ, ผู้ตัดสินต้องรักษาความเอาใจใส่ผู้เล่นอย่างสม่ำเสมอ
- ความยุติธรรม, การตัดสินใจใดๆต้องทำโดยความรู้สึกถึงความยุติธรรม และความซื่อสัตย์
- การเตรียมพร้อม, ไม่ว่าจะมีประสบการณ์ทำหน้าที่ผู้ตัดสินมานานขนาดไหน สำคัญที่สุดจะต้องมีการเตรียมพร้อมทุกเกม
- การมีสมาธิ, การมีสมาธิในเกมจะต้องรักษาไว้ตลอดทั้งเกม อย่าให้สิ่งใดมากวนใจผู้ตัดสินได้
- การเข้าถึง, การเข้าใจที่ดีต่อกติกาต้องนำมาประสานกับสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เล่น
- การทำให้ดีกว่า, ผู้ตัดสินต้องมีเป้าหมายที่จะทำให้ดีขึ้นในทุกเกม
- การเป็นธรรมชาติ, ผู้ตัดสินจะต้องเป็นตัวของตัวเองและต้องไม่ลอกเลียนผู้อื่น
- ผู้ตัดสินจะต้อง
- มีความรู้ในกติกาฮอกกี้อย่างละเอียด และต้องระลึกไว้เสมอว่าความแม่นยำในกติกา และการตอบสนองที่ฉับไวเป็นสิ่งสำคัญ
- สนับสนุน และส่งเสริมการเล่นที่ใช้ทักษะที่สูง, จัดการอย่างทันท่วงทีและหนักแน่นต่อความผิด และใช้บทลงโทษที่เหมาะสม
- แสดงให้เห็นถึงการควบคุมการแข่งขัน และรักษาไว้ได้ตลอดทั้งเกม
- ใช้เครื่องมือที่มีในการควบคุมนักกีฬา
- ใช้กติกาในการให้ได้เปรียบมากสุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อช่วยให้เกมต่อเนื่องแต่ต้องควบคุมเกมได้ด้วย
กติกาข้อที่ 2
การใช้กติกา (Applying the rules)
- ปกป้องผู้เล่นที่มีทักษะสูง และความผิดที่ลงโทษ
- ความผิดที่ร้ายแรงจะต้องถูกตัดสินโดยทันที เช่น การที่เล่นอันตราย หรือการเล่นที่หยาบคายใดๆ จะต้องตัดสินได้รวดเร็ว และหนักแน่นในการแข่งขัน
- การเจตนาทำผิดกติกาจะต้องลงโทษอย่างหนัก
- ผู้ตัดสินจะต้องแสดงให้เห็นว่าถ้าผู้เล่นให้ความร่วมมือ, มีทักษะดี จะได้รับการปกป้อง และการแข่งขันจะถูกขัดจังหวะการเล่นเฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น
- การได้เปรียบ
- การทำผิดกติกาทุกครั้งไม่จำเป็นจะต้องลงโทษ เมื่อผลประโยชน์ไม่ได้รับจากการกระทำผิดนั้น การขัดจังหวะที่ไม่จำเป็นของเกมการแข่งขันเป็นผลให้เกมไม่ต่อเนื่อง
- เมื่อกติกาถูกละเมิดผู้ตัดสินจะต้องใช้การให้ได้เปรียบ ถ้าเป็นการลงโทษที่รุนแรงที่สุด
- การครอบครองบอลไม่ได้หมายความว่าได้เปรียบ สำหรับการให้ได้เปรียบนั้นผู้เล่นหรือทีมที่ครอบครองบอลจะต้องสามารถทำให้การเล่นในจังหวะต่อไปของเขานั้นดีขึ้น
- เมื่อมีการตัดสินใจที่จะเล่นได้เปรียบแล้ว โอกาสที่สองจะต้องไม่ถูกให้โดยย้อนกลับไปยังลงโทษอันเดิม
- การคาดการณ์ล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญของความต่อเนื่องของเกม, การมองเลยออกไปจากการกระทำในขณะนั้น และตระหนักถึงการพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของนักกีฬา
- การควบคุม
- การตัดสินใจจะต้องทำอย่างทันท่วงที, ในทางบวก, ชัดเจน และต่อเนื่อง
- การตัดสินอย่างเข้มงวดในช่วงต้นเกมจะช่วยลดการกระทำผิดที่จะเกิดซ้ำๆในเกม
- ไม่เป็นที่ยอมรับในกีฬาฮอกกี้สำหรับผู้เล่นที่ทำผิดกติกาโดยใช้วาจา ท่าทาง และทัศนะคติที่ไม่ดีต่อคู่ต่อสู้, ผู้ตัดสิน หรือเจ้าหน้าที่เทคนิคอื่นๆ ผู้ตัดสินต้องจัดการกับการกระทำดังกล่าวอย่างเข้มแข็ง ตามลำดับการเตือนคือ ด้วยวาจา, ตักเตือน(ใบเขียว) หรือพักชั่วคราว(ใบเหลือง) หรือพักถาวร(ใบแดง) ข้อควรระวังการเตือนและการสั่งพักผู้เล่นสามารถให้โดยแยกหรือรวมกับการลงโทษอื่น
- การตักเตือนสามารถให้กับผู้เล่นได้โดยไม่ต้องหยุดเวลา
- อาจเป็นไปได้แต่ไม่แนะนำให้ทำสำหรับผู้เล่นที่จะได้รับใบลงโทษใบเขียว 2 ใบ หรือใบเหลือง 2 ใบ ในการทำผิดกติกาที่สาเหตุต่างกัน อย่างไรก็ตามเมื่อการทำผิดกติกาที่ได้ใบลงโทษแล้วและถูกทำซ้ำ ใบลงโทษใบเดิมจะต้องไม่ถูกใช้อีกครั้ง และควรให้การลงโทษที่หนักขึ้น
- เมื่อให้ใบเหลืองใบที่สอง ระยะเวลาในการพักควรเพิ่มขึ้นมากกว่าใบแรก
- จะต้องชัดเจนในความแตกต่างระหว่างระยะเวลาในการพักของใบเหลืองสำหรับการทำผิดกติกาเล็กน้อยกับระยะเวลาสำหรับการทำผิดกติกาที่รุนแรง หรือการทำผิดกติกาโดยใช้ร่างกาย
- เมื่อผู้เล่นเจตนามีพฤติกรรมที่รุนแรงต่อผู้เล่น, ผู้ตัดสิน และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ใบแดงจะต้องให้โดยทันที
- การลงโทษ
- มีการลงโทษที่หลากหลาย
- การลงโทษสองอย่างสามารถนำมาใช้ร่วมกันได้เพื่อจัดการกับความผิดที่เกิดขึ้นซ้ำๆ
กติกาข้อที่ 3
ทักษะของผู้ตัดสิน(Umpiring skills)
- หลักสำคัญของทักษะผู้ตัดสินคือ
- การเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขัน
- การประสานร่วมมือกันระหว่างผู้ตัดสิน
- การเคลื่อนที่ และตำแหน่งการยืน
- สัญญาณนกหวีด
- สัญญาณมือ
- การเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขัน
- ผู้ตัดสินจะต้องมีการเตรียมตัวอย่างดีในแต่ละเกมโดยมาถึงสนามในช่วงเวลาที่เหมาะสม
- ก่อนการแข่งขันผู้ตัดสินทั้งสองคนจะต้องตรวจสอบความพร้อมของสนาม เส้น, ประตู และตาข่าย ตรวจสิ่งที่อาจจะเป็นอันตรายต่อการเล่นของอุปกรณ์และอุปกรณ์สนาม
- ผู้ตัดสินทั้งสองคนจะต้องสวมเสื้อที่มีสีคล้ายกัน และต้องแตกต่างกับทีมที่แข่งขันทั้งสองทีม
- สวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ
- สวมรองเท้าที่เหมาะกับสภาพสนาม และช่วยในการเคลื่อนไหว
- อุปกรณ์ของผู้ตัดสินประกอบด้วย หนังสือกติกา(ปัจจุบัน), นกหวีดที่มีคุณภาพเสียงที่ดี, นาฬิกาจับเวลา, ใบลงโทษ และอุปกรณ์ที่ใช้บันทึกรายละเอียดของเกม
- การประสานร่วมมือกันระหว่างผู้ตัดสิน
- การร่วมมือกันและการช่วยเหลือกันระหว่างผู้ตัดสินเป็นสิ่งจำเป็น
- ก่อนที่จะลงตัดสิน ผู้ตัดสินจะต้องปรึกษาหารือ และตกลงวิธีที่จะลงไปตัดสินและช่วยเหลือกัน การสื่อสารกันด้วยสายตาระหว่างผู้ตัดสินจะต้องได้รับการฝึกฝนและทำอย่างสม่ำเสมอ
- ผู้ตัดสินจะต้องรับผิดชอบ และพร้อมที่จะช่วยเหลือ เมื่อผู้ตัดสินคู่ไม่สามารถจะมองได้เห็นเหตุการณ์หรืออยู่ในตำแหน่งที่มองได้ยาก ผู้ตัดสินจะต้องเตรียมพร้อมที่จะข้ามเส้นกลางสนาม และไปไกลเท่าที่จะทำได้ในฝั่งของผู้ตัดสินคู่ เพื่อช่วยเหลือและสร้างความมั่นใจให้กับคู่
- ผู้ตัดสินทั้งสองคนจะต้องทำการบันทึกผู้ทำประตู และผู้ที่ได้รับใบลงโทษ และยืนยันหลังจบเกม
- การเคลื่อนที่ และตำแหน่งการยืน
- ผู้ตัดสินจะต้องมีการเคลื่อนที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ง่าย เพื่อที่จะเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมได้ตลอดทั้งเกม
- ผู้ตัดสินที่ยืนนิ่งกับที่จะไม่สามารถเห็นการเล่นของผู้เล่นได้อย่างชัดเจนพอสำหรับการตัดสินใจที่ถูกต้องตลอดเวลา
- สมรรถภาพดี, การเคลื่อนที่ที่ดี และการยืนตำแหน่งที่เหมาะสม จะทำให้ผู้ตัดสินมีสมาธิที่ดีในเกมการแข่งขัน และในการตัดสินใจ
- ผู้ตัดสินแต่ละคนจะทำหน้าที่เป็นส่วนใหญ่ในครึ่งสนามที่เส้นกลางสนามอยู่ด้านซ้ายของตัวเอง
- โดยทั่วไปตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดของผู้ตัดสินคือด้านบน และด้านขวาของผู้เล่นฝ่ายรุก
- สำหรับการเล่นบริเวณกลางสนาม และเขตทำประตู ผู้ตัดสินควรยืนใกล้เส้นออกข้าง
- เมื่อเกมเล่นในเขตทำประตู ผู้ตัดสินจะต้องเคลื่อนที่มากขึ้นโดยเข้ามาด้านในสนามและออกจากกระดานด้านข้างสนาม เมื่อจำเป็นจะต้องเข้ามาในเขตทำประตูของตัวเองเพื่อจะช่วยในการมองเห็นการทำผิดกติกาที่สำคัญๆ และการทำประตู
- การเล่นลูกโทษจากมุม หลังจากที่ลูกบอลออกนอกสนามไปแล้วผู้ตัดสินจะต้องเดินขึ้นมายังตำแหน่งที่จะช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนกับการเล่นที่กำลังจะเกิดขึ้น
- การเล่นลูกที่จุดโทษ ผู้ตัดสินจะต้องยืนด้านหลังฝั่งขวามือของผู้เล่น
- ผู้ตัดสินจะต้องระวังอย่าให้ตำแหน่งการยืนหรือวิ่งของตนเองรบกวนความต่อเนื่องของเกม
- ผู้ตัดสินจะต้องหันหน้าเข้าหาผู้เล่นตลอดเวลา
- สัญญาณนกหวีด
- สัญญาณนกหวีดเป็นหัวใจหลักในการสื่อสารกับผู้เล่น และคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเกม
- สัญญาณนกหวีดจะต้องมีเสียงดังชัดเจนสำหรับคนอื่นๆในสนามที่จะได้ยิน และไม่ได้หมายถึงว่าต้องให้สัญญาณยาวดังตลอดเวลา
- ระดับของเสียงนกหวีดและระยะเวลาในการเป่าจะต้องแตกต่างกัน เพื่อบอกถึงการทำผิดกติกาที่ร้ายแรงกับผู้เล่น
- สัญญาณมือ
- สัญญาณมือจะต้องชัดเจน และแสดงยาวนานพอเพื่อให้ผู้เล่นและผู้ตัดสินอีกคนได้เห็นการตัดสิน
- จะต้องใช้ท่าสัญญาณที่เป็นมาตรฐานเท่านั้น
- การให้สัญญาณควรยืนนิ่งกับที่จะดีที่สุด
- การชี้ทิศทางการเล่นไม่ควรชี้ข้ามร่างกายตัวของตัวเอง
- การแสดงสัญญาณการทำผิดกติกาหรือการตัดสินใดๆควรมองผู้เล่นที่ให้ มิฉะนั้นอาจจะมีการทำผิดกติกาที่มากขึ้น และอาจแสดงให้เห็นถึงการขาดความมั่นใจในตนเอง
กติกาข้อที่ 4
ท่าสัญญาณของผู้ตัดสิน (Umpiring signals)
- เวลา
- เริ่มเกม : ให้หันหน้าไปหาผู้ตัดสินอีกคนแล้วยกแขนข้างหนึ่งขึ้นให้สุด
- หยุดเวลา : ให้หันหน้าไปหาผู้ตัดสินอีกคนและเหยียดแขนที่ไขว้ตัดกัน(รูปกากบาท)เหนือศีรษะ
- เหลือเวลาแข่งขันอีก 2 นาที : นิ้วชี้ ชี้ขึ้นพร้อมยกแขนทั้งสองข้างขึ้นจนสุดแขน
- เหลือเวลาแข่งขันมากกว่า 1 นาที : นิ้วชี้ ชี้ขึ้นพร้อมยกแขนข้างเดียวขึ้นจนสุดแขน
- บูลลี่ หันฝ่ามือเข้าหากัน ขยับแขนขึ้นลงด้านหน้าตัวเอง
- ข้อปฏิบัติในการเล่น
ท่าสัญญาณสำหรับข้อปฏิบัติในการเล่นจะต้องแสดงทันทีถ้ามีการสงสัยของ ผู้เล่น
- การเล่นที่อันตราย : วางมือเฉียงทแยงมุมตัดผ่านหน้าอก
- การประพฤติผิดหรืออารมณ์รุนแรง : หยุดเวลา คว่ำมือทั้งสองลงด้านหน้าลำตัวข้างขยับแขนขึ้นลงช้าๆ
- ลูกบอลสัมผัสเท้า : ยกเข่าขึ้นเล็กน้อย แล้วชี้ที่บริเวณต้นขา
- บอลลอยสูง : หันฝ่ามือเข้าหากันห่างประมาณ 15 ซม. ขนานกับพื้นด้านหน้าตัวเอง
- กีดขวางการเล่น : ยกแขนตัดกันเป็นรูปกากบาทด้านหน้าลำตัว
- ใช้ไม้กีดขวางการเล่น : เหยียดแขนข้างหนึ่งเฉียงลงไปที่พื้นด้านหน้าตัวเอง แล้ววางมืออีกด้านข้างบน
- ระยะห่าง 5 เมตร : ยกแขนขึ้นข้างหนึ่ง หันด้านหน้ามือออกและนิ้วทั้ง 5 กางออก
- การลงโทษ
- การได้เปรียบ : ยกแขนขึ้นข้างหนึ่งสูงมากกว่าระดับไหล่ในทิศทางที่ทีมที่ได้เปรียบพาลูกไป
- ลูกกินเปล่า : ชี้ทิศทางด้วยแขนข้างหนึ่งที่ยกขนาดกับพื้น
- ลูกกินเปล่าเพิ่มระยะอีก 10 เมตร : กำมือแล้วยกแขนขึ้นข้างหนึ่ง
- ลูกโทษจากมุม : ชี้แขนทั้งสองข้างขนานกับพื้นไปที่ประตู
- ลูกที่จุดโทษ : ชี้มือข้างหนึ่งไปที่จุดโทษ มืออีกข้างชี้ขึ้นข้างบน เหยียดแขนให้สุด สัญญาณนี้หมายถึงหยุดเวลาเช่นเดียวกัน
ขนาดสนามและอุปกรณ์
(Field and Equipment specifications)
กติกาข้อที่ 1
สนามและอุปกรณ์สนาม (Field and field equipment)
1.1 สนามเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาว 44.00 เมตร และกว้าง 22.00 เมตร
แนะนำให้ใช้สนามที่เต็มขนาด สำหรับการแข่งขันในระดับประเทศหรือท้องถิ่นสามารถใช้สนามขนาดเล็กได้คือความยาว 36.00 เมตร และกว้าง 18.00 เมตร
พื้นที่ที่แนะนำนอกเส้นหลัง 3 เมตร และเส้นข้าง 1 เมตร
- เครื่องหมายบนสนาม
- ไม่มีเครื่องหมายหรือเส้นใดๆที่นอกเหนือกติกานี้บนสนาม
- เส้นกว้าง 50 มม. และจะต้องเห็นได้ชัดเจนตามแนวยาวของมัน
- เส้นออกหลัง และเส้นต่างๆบนสนามเป็นส่วนหนึ่งของสนาม
- เส้นต่างๆบนสนามต้องเป็นสีที่แตกต่างจากพื้นสนาม
- กระดานด้านข้างของสนาม
- ขนาดตามแนวยาวของสนาม ตั้งแต่ 00 – 44.00 เมตร
- อยู่บนฐานสี่เหลี่ยมหน้าตัด 100 มม.
- พื้นผิวที่หันเข้าหาสนามมีความเอียง 10 มม.
กระดานด้านข้างจะต้องทำมาจากไม้ หรือวัสดุที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน และจะต้องไม่มีข้อต่อหรือสิ่งรองรับที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้เล่นและผู้ตัดสิน
- เส้นและเครื่องหมายอื่นๆบนสนาม
- เส้นออกด้านหลังสนาม : มีความยาว 00 – 22.00 เมตร
- เส้นประตู : เป็นส่วนหนึ่งของเส้นออกด้านหลังอยู่ระหว่างเสาประตูทั้งสอง
- เส้นกลางสนาม : เส้นที่ตัดผ่านกลางสนาม
- เส้น 300 มม.(30ซม.) ด้านในของสนามบนเส้นออกด้านหลังทั้งสองด้าน อยู่ออกจากขอบนอกประตูทั้งสองด้าน 6 เมตร วัดขอบด้านไกลที่สุดของแต่ละเส้น
- เส้น 150 มม.(15ซม.) ด้านนอกของสนามบนเส้นออกด้านหลังทั้งสองด้าน 50 เมตรจากตรงกลางของเส้นออกด้านหลัง วัดจากขอบที่ใกล้ที่สุดของเส้นนี้
- จุดของจุดโทษ 100 มม.(10ซม.) อยู่ด้านหน้ากึ่งกลางของประตูในแต่ละด้าน 00 เมตรจากขอบด้านในของเส้นประตู
- เขตทำประตู
- เส้น 00 เมตร ขนานกับเส้นออกด้านหลัง เส้นนี้อยู่ในสนามจุดศูนย์กลางของเส้นอยู่ตรงกับจุดศูนย์กลางของเส้นออกด้านหลัง ระยะห่างจากขอบด้านนอกของเส้น 3.00 เมตรกับขอบด้านนอกของเส้นออกด้านหลังคือ 9.00 เมตร
- เส้นนี้ยังคงเป็นเส้นโค้งต่อไปทั้งสองด้านและบรรจบกับเส้นออกด้านหลังในรูปครึ่งวงกลม
- เส้น 00 เมตร และส่วนโค้งเรียกว่าเส้นเขตทำประตู เขตที่ล้อมรอบโดยเส้นนี้เรียกว่าเขตทำประตู
| รหัส | เมตร | รหัส | เมตร |
| A | 22.00 อย่างน้อย 18.00 | G | 0.30 |
| B | 22.00 อย่างน้อย 18.00 | H | 0.10 |
| C | 9.00 | I | 7.00 |
| D | 3.00 | ||
| E | 6.03 | 1 | อย่างน้อย 3.00 |
| F | 0.15 | 2 | อย่างน้อย 1.00 |
*ขอบเขตของ E วัดจากเส้นประตูไม่ใช่จากเสาประตูระยะห่าง 6.00 เมตร
- ประตู
- เสาประตูสองเสาตามแนวตั้งร่วมกับคานประตูตามแนวนอน วางอยู่กึ่งกลางของเส้นออกด้านหลัง
- เสาประตูและคานต้องมีสีขาว เป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก กว้าง 80 มม. และลึก 80 มม.
- เสาประตูต้องไม่สามารถทำให้สูงขึ้นตามแนวดิ่งตามความสูงของคานประตู และคานประตูต้องไม่สามารถขยายตามแนวนอนตามเสาประตู
- ระยะห่างระหว่างขอบด้านในเสาประตูทั้งสองด้านคือ 00 เมตร และระยะห่างระหว่างขอบที่ต่ำที่สุดของคานประตูกับพื้นคือ 2.00 เมตร
- ที่ว่างนอกสนามที่อยู่ด้านหลังของเสาและคานประตูจะถูกปิดด้วยตาข่าย ด้านลึกของประตู ด้านบนลึกจากคานประตูอย่างน้อย 800 มม. และด้านล่างที่ติดกับพื้นลึกจากเสาประตูอย่างน้อย 00 เมตร
กระดานด้านข้าง และกระดานด้านหลัง ไม่ได้บังคับไว้ในกติกา แต่ถ้าติดตั้งควรเป็นไปตามข้อกำหนดดังนี้
- กระดานด้านข้างสูง 460 มม.(46ซม.) และยาวอย่างน้อย 92 เมตร
- กระดานด้านหลังสูง 460 มม.(46ซม.) และยาว 00 เมตร
- กระดานด้านข้างอยู่ติดกับพื้น ยึดติดกับด้านหลังของเสาประตู
- กระดานด้านหลังอยู่ติดกับพื้น ขนานกับเส้นออกหลัง และยึดติดกับกระดานด้านข้าง
- กระดานด้านข้าง และกระดานด้านหลัง ด้านในประตูจะต้องมีสีเข้ม
- ตาข่าย
- ขนาดใหญ่ที่สุด 45 มม.
- ติดกับด้านหลังของเสาประตู และคานประตูเป็นช่วงๆไม่เกิน 150 มม.(15ซม.)
- ตาข่ายห้อยลงด้านนอกของกระดานด้านข้างและกระดานด้านหลัง
- ตาข่ายจะต้องมัดให้แน่นเพื่อป้องกันลูกบอลทะลุผ่านระหว่างเสาประตู, คานประตู, กระดานด้านข้าง และกระดานด้านหลัง
- ตาข่ายต้องกระชับแต่ไม่หลวมเพื่อป้องกันการกระดอนของลูกบอล
| รหัส | เมตร | รหัส | เมตร |
| A | 3.00 | E | อย่างน้อย 0.80 |
| B | 2.00 | F | 0.080 |
| C | 0.46 | G | 0.080 ถึง 0.075 |
| D | อย่างน้อย 1.00 |
ขนาดของประตู
- ที่นั่งนักกีฬาสำรอง และโต๊ะเทคนิค
- ที่นั่งนักกีฬาของแต่ละทีมจะอยู่ด้านนอกของสนามทั้งสองฝั่ง
- โต๊ะสำหรับเจ้าหน้าที่เทคนิคจะวางด้านนอกสนามบริเวณกลางสนาม ด้านเดียวกับที่นั่งนักกีฬาสำรอง
ตำแหน่งของที่นั่งนักกีฬาสำรอง และโต๊ะจะต้องไม่เป็นอันตรายกับผู้เล่น และผู้ตัดสิน
กติกาข้อที่ 2
ไม้ฮอกกี้ (Stick)
จะทำการวัดทั้งหมดของไม้ และวัตถุอื่นๆที่มีการหุ้มหรือติดไปกับไม้ที่ใช้ในการแข่งขัน
- ในข้อนี้จะระบุถึงคุณสมบัติของไม้ฮอกกี้ ซึ่งคุณสมบัติอื่นๆที่ไม่ได้ระบุไว้ในกติกาข้อนี้สหพันธ์ฮอกกี้ฯขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามไม่ให้นำไม้ที่เห็นว่าไม่ปลอดภัย หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายลงแข่งขัน
- รูปร่างและขนาดของไม้จะถูกทดสอบโดยการวางด้านหน้าไม้ที่ใช้เล่นคว่ำลงกับพื้นที่ราบ ตามรูปที่ 3 และ 4 เส้น A, A1, B, B1 และ Y เส้นทั้งหมดขนานกัน และตั้งฉากกับเส้น C และ X
- ไม้มีรูปร่างดั้งเดิม ทั้งหัวตลอดคนด้ามจับ
ก. ตำแหน่งของไม้ตามรูปที่ 3 และ 4 เส้น Y ลากผ่านตรงกลางตั้งแต่ด้านบนของด้ามจับ ; ด้ามจับของไม้เริ่มต้นจากเส้น C และต่อเนื่องไปตามทิศทางของเส้น Y+
ข. ฐานของหัวไม้สัมผัสเส้น X ; หัวของไม้เริ่มต้นที่เส้น X และสิ้นสุดที่เส้น C
- ไม้ที่จะได้รับการตรวจสอบจะประกอบด้วยส่วนต่างๆที่เคลือบ ครอบคลุม หรือยึดติดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของไม้ฮอกกี้
- ข้อกำหนดอื่นๆของไม้ ตามคำอธิบายด้านล่างนี้
ก. “ราบเรียบ” หมายถึง ต้องไม่มีส่วนที่หยาบ หรือคม พื้นผิวต้องเรียบเป็นปกติ ไม่มีร่อง ไม่ร่น หรือเป็นสัน ต้องไม่มีขอบที่มีมุมที่เป็นรัศมีน้อยกว่า 3 มม.
ข. “แบน” หมายถึง ต้องไม่มีส่วนโค้งเว้า สูง หรือเป็นโพรง ที่มีรัศมีน้อยกว่า 2 มม. และแบนราบไปถึงขอบของไม้ที่มีรัศมีไม่น้อยกว่า 3 มม.
ค. “ต่อเนื่อง” หมายถึง ตลอดแนวของไม้จะต้องไม่ถูกรบกวนด้วยสิ่งใดๆ
- ด้านที่ใช้เล่นทั้งหมดแสดงในรูปที่ 3 และ 4 รวมทั้งขอบของด้านนั้นๆ
- จากด้ามจับไปยังหัวไม้ จะต้องราบเรียบและต่อเนื่อง ต้องไม่มีส่วนที่ไม่เรียบหรือไม่ต่อเนื่อง
- ส่วนหัวไม้ต้องเป็นทรง ‘J’ หรือ ‘U’ มีรูปร่างปลายหงายหรือปลายเปิดซึ่งถูกจำกัดโดยเส้น C
- ส่วนของหัวไม้ไม่มีข้อจำกัด ระหว่างเส้น C และ X ในทิศทาง X- หรือ X+
2.10 ส่วนหัวไม้จะต้องแบนบนด้านซ้ายมือเท่านั้น (ด้านที่ผู้เล่นถือไม้ให้ส่วนหัวไม้ชี้ตรงไปด้านหน้าของผู้เล่น ด้านที่แสดงในรูป)
2.11 ค่าเบี่ยงเบนนูนหรือเว้าจะต้องเรียบ และต่อเนื่อง สูงสุดไม่เกิน 4 มม.
การเบี่ยงเบนด้านของหัวไม้ที่ใช้เล่นได้รับการทดสอบโดยการวางสันด้านตรงผ่านด้านนี้ตรงส่วนใดๆตามหัวไม้ และใช้มาตรวัดความลึกวัดความโค้งเว้าด้านล่างตรงสันไม้ต้องไม่เกิน 4 มม
รอยยุบ หรือร่องต่างๆ ไม่อนุญาตให้ใช้ในเล่น
2.12 ด้านหน้าไม้ที่ใช้เล่นนั้น จะต้องราบเรียบต่อเนื่องตลอดพื้นผิว
2.13 การบิดทำให้ผิดรูปร่างตามแนวยาวของไม้ไม่อนุญาตให้ใช้ เช่น จุดตัดของระนาบประกอบด้วยด้านแบนที่ใช้ในการเล่น จะต้องขนานกับกับด้านแบนในส่วนของด้ามไม้ตามเส้นC-C
2.14 อนุญาตให้ส่วนของด้ามจับ โค้ง งอ ยื่นออกมาจากเส้น A แต่ไม่เกินเส้น B หรือ จับ โค้ง งอ ยื่นออกมาจากเส้น A1 แต่ไม่เกินเส้น B1
2.15 ความโค้งตามแนวยาวของไม้จะต้องราบเรียบต่อเนื่องตามแนวยาวทั้งหมด ต้องเกิดขึ้นตามแนวด้านหน้าหรือด้านหลังของไม้แต่ต้องไม่ทั้งสองด้าน และจำกัดความลึกที่ 25 มม. จุดสูงสุดต้องไม่ชิดกับฐานของหัวไม้(เส้น X ในรูปที่ 3) มากกว่า 200 มม. ความโค้งที่หลากหลายไม่อนุญาต
ไม้วางลงบนพื้นราบโดยให้หน้าไม้คว่ำลงตามธรรมชาติ(ตามรูปที่ 5) อุปกรณ์ที่แสดงในรูปที่ 5 คือที่ใช้ในการวัดโค้งและความลาดเอียง ที่ซึ่งวางอยู่บนพื้นระนาบที่ใช้ทดสอบ ปลายสูง 25 มม. จะต้องไม่ลอดผ่านอย่างสะดวกมากกว่า 8 มม.ในส่วนใดๆของไม้
2.16 สันไม้และด้านที่ไม่ใช้ในการเล่นจะต้องกลมและราบเรียบต่อเนื่อง ส่วนแบนของขอบหรือด้านหลังไม้ไม่อนุญาต
พื้นผิวที่เป็นคลื่น ขรุขระ ด้านหลังของด้ามจับอนุญาตให้ความลึกไม่เกิน 4 มม. และห้ามไม่ให้มีพื้นผิวที่เป็นคลื่น ขรุขระ ด้านหลังของหัวไม้
2.17 รวมทั้งส่วนประกอบใดๆที่ติดอยู่กับไม้ ไม้จะต้องลอดผ่านห่วงที่มีเส้นผ่านจุดศูนย์กลาง 51 มม.
2.18 น้ำหนักรวมของไม้จะต้องไม่เกิน 737 กรัม
2.19 ความเร็วของลูกต้องไม่มากกว่า 98% ของความเร็วหัวไม้ อยู่ภายใต้เงื่อนไขของการทดสอบ
ความเร็วของลูกจะถูกกำหนดขึ้นในการทดสอบมากกว่า 5 ครั้ง ที่ความเร็วของไม้ 80 กม./ชม. ในห้องปฏิบัติการซึ่งได้รับการรับรองจากสหพันธ์ฮอกกี้ฯ ความเร็วของลูกจะถูกคำนวณจากเวลาที่ลูกผ่านจุดสองจุด และแสดงเป็นอัตราส่วนกับความเร็วของไม้ที่ระบุไว้ สหพันธ์ฯได้อนุมติให้ใช้ลูกที่ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่อุณหภูมิ20ºC และความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ50%
2.20 ไม้จะต้องมีความยาวที่ราบเรียบ
ไม้ที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายไม่อนุญาตให้ลงเล่น
2.21 ไม้ที่ติดสิ่งต่างๆเพิ่มเติมอาจจะทำจากวัสดุอื่นๆที่ไม่ใช่ชิ้นส่วนโลหะหรือส่วนประกอบโลหะใดๆ ให้เป็นไปอย่างเหมาะสมสำหรับจุดประสงค์การเล่นฮอกกี้ และไม่ได้เป็นอันตราย
2.22 การใช้เทปหรือเรซิ่นที่ได้รับอนุญาตโดยมีเงื่อนไขว่าพื้นผิวของไม้จะต้องราบเรียบ และตรงกับข้อกำหนดของไม้
กติกาข้อที่ 3
ลูกฮอกกี้ (Ball)
- บอล
- ลูกบอลเป็นทรงกลม
- มีเส้นรอบวง ระหว่าง 224 มม. และ 235 มม.
- น้ำหนักอยู่ระหว่าง 156 กรัม และ 163 กรัม
- ทำจากวัสดุใดๆที่มีสีขาว (หรือสีที่มีการตกลงกันซึ่งต่างจากพื้นสนาม)
- พื้นผิวราบเรียบ และแข็ง รอยขรุขระต้องได้รับอนุญาต
กติกาข้อที่ 4
อุปกรณ์ของผู้รักษาประตู (Goalkeeper’s equipment)
- เครื่องป้องกันแขน
- แต่ละชนิดมีความกว้างสูงสุด 228 มม. และมีความยาว 355 มม. เมื่อวางด้าน ฝ่ามือด้านแบนขึ้น
- ต้องไม่มีการเพิ่มเติมสิ่งใดๆที่จะแทนไม้ เมื่อไม่มีไม้อยู่ในมือ
4.2เครื่องป้องกันขา: แต่ละชนิดมีความกว้างสูงสุด 300 มม. เมื่ออยู่ในขาของผู้รักษาประตู
ขนาดของเครื่องป้องกันมือ และเครื่องป้องกันขา จะถูกวัดโดยใช้มาตรวัดที่มีขนาดเท่ากับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง