News » ข้อบังคับสมาคมฮอกกี้แห่งประเทศไทย

ข้อบังคับสมาคมฮอกกี้แห่งประเทศไทย

24 สิงหาคม 2017
2381   0

ข้อบังคับ

สมาคมกีฬาฮอกกี้แห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘

แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับปี พ.ศ. ๒๕๕๕

____________________________________

ข้อ ๑   ข้อบังคับนี้ เรียกว่า “ข้อบังคับสมาคมกีฬาฮอกกี้แห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘”

ข้อ ๒   ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ได้รับการจดทะเบียนจากนายทะเบียน

ข้อ ๓   ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการตีความในข้อบังคับข้อใดให้สมาคมเสนอปัญหานั้นให้ที่ประชุมใหญ่วินิจฉัย

และให้ถือการวินิจฉัยเป็นที่สุด

ข้อ ๔   คำจำกัดความ คำในข้อบังคับนี้หมายความว่า ดังนี้

๔.๑     สมาคม หมายถึง สมาคมกีฬาฮอกกี้แห่งประเทศไทย

๔.๒     คณะกรรมการ หมายถึง คณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาฮอกกี้แห่งประเทศไทย

๔.๓     สโมสรสมาชิก หมายถึง สโมสรสมาชิกสามัญ และสโมสรสมาชิกวิสามัญที่สมาคมกีฬาฮอกกี้แห่ง

ประเทศไทยให้การรับรอง

๔.๔     เจ้าหน้าที่ หมายถึง บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกสมาคม หรือที่นายกสมาคมมอบหมายให้

เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในกิจการของสมาคมกีฬาฮอกกี้แห่งประเทศไทย

๔.๕     นายทะเบียน หมายถึง นายทะเบียนกลางสมาคมกีฬา หรือนายทะเบียนสมาคมกีฬาประจำ

กรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี

 

หมวดที่ ๑

ความทั่วไป

ข้อ ๕   สมาคมนี้มีชื่อว่า “สมาคมกีฬาฮอกกี้แห่งประเทศไทย” ใช้อักษรย่อว่า “ส.ฮ.ท.” เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า “THAILAND HOCKEY ASSOCIATION” ใช้อักษรย่อว่า “THA”

ข้อ ๖   เครื่องหมายสมาคมมีลักษณะส่วนฐานเป็นช่อมะกอกสีทอง พื้นสีเนื้อ ด้านบนมีชื่อสมาคม               เป็นภาษาอังกฤษว่า THAILAND HOCKEY ASSOCIATION พื้นตรงกลางไม้ฮอกกี้ไขว้กันสองอัน  ด้านบนเป็นธงชาติไทย และด้านล่างมีลูกฮอกกี้หนึ่งลูก อยู่ตรงกลางระหว่างข้างไม้

 

รูปของเครื่องหมายสมาคม

 

 

ข้อ ๗   สำนักงานของสมาคมตั้งอยู่ ณ ห้องหมายเลข ๓ ชั้น ๑๗ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ                พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย

เลขที่ ๒๘๖ ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ๑๐๒๔๐

โทรศัพท์ ๐ ๒๑๗๐ ๙๖๒๕  โทรสาร ๐ ๒๑๗๐ ๙๖๒๖

E-Mail : thahockey@gmail.com

วันเวลาเปิดทำการ  วันจันทร์ – วันศุกร์  เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๗.๐๐ น.

ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ข้อ ๘   วัตถุประสงค์ของสมาคม

๘.๑     เพื่อทำหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุน เผยแพร่ พัฒนา กำกับ ควบคุม ดูแล และดำเนินกิจกรรมกีฬาฮอกกี้ และกีฬาฟลอร์บอลภายในประเทศ และนานาชาติ ทั้งสมัครเล่นและอาชีพ

๘.๒     เพื่อส่งเสริม สนับสนุน ดำเนินการจัดการแข่งขันภายในประเทศ และนานาชาติ โดยกำกับ ควบคุม และรับรองการจัดการแข่งขันให้มีมาตรฐานเป็นไปตามที่สมาคมกำหนดในแต่ละระดับ สอดคล้องกับกฎระเบียบของสหพันธ์กีฬาฮอกกี้นานาชาติ (FIH) และสหพันธ์กีฬาฟลอร์บอลนานาชาติ (IFF)

๘.๓     เพื่อพัฒนาการเล่นกีฬาฮอกกี้ และกีฬาฟลอร์บอลของประเทศไทย ตลอดจนพัฒนาส่งเสริม สนับสนุนบุคลากรในระดับต่าง ๆ ให้มีมาตรฐาน มีความรู้ ความสามารถเพิ่มขึ้น

๘.๔     เพื่อร่วมมือกับการกีฬาแห่งประเทศไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา ตลอดจนดำเนินการประสานงานติดต่อร่วมมือกับองค์กรและประเทศต่าง ๆ ในนามประเทศไทยในด้านกีฬาฮอกกี้ และกีฬาฟลอร์บอล

๘.๕     เพื่อส่งเสริมให้มีสโมสรสมาชิกมาจากจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ

๘.๖     เพื่อสนับสนุน ส่งเสริม และช่วยเหลือสโมสรสมาชิกในด้านต่าง ๆ ตามระเบียบหรือข้อบังคับที่สมาคมกำหนด

๘.๗     เพื่อส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ด้วย    ความเป็นกลาง และไม่ให้การสนับสนุนด้านการเงิน หรือทรัพย์สินแก่นักการเมืองหรือ      พรรคการเมืองใด

 

หมวดที่ ๒

สมาชิก

ข้อ ๙   สมาชิกของสมาคม มี ๓ ประเภท ดังนี้คือ

๙.๑     สมาชิกสามัญ ได้แก่ สมาคมกีฬาจังหวัด หรือชมรมกีฬาฮอกกี้ หรือกีฬาฟลอร์บอลตัวแทนของจังหวัด โดยสมาคมกีฬาจังหวัดให้การรับรอง หน่วยงานราชการที่เป็นนิติบุคคล หรือรัฐวิสาหกิจ สโมสรของหน่วยงานราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ นิติบุคคล หรือสโมสรของนิติบุคคล หรือสถาบันการศึกษา

๙.๒     สมาชิกวิสามัญ ได้แก่ ชมรม สโมสรทั่วไปที่มีคุณสมบัติ นอกเหนือจากข้อ ๙.๑ หรือข้อ ๑๐

๙.๓     สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ บุคคลผู้ทรงเกียรติ หรือผู้ทรงคุณวุฒิ หรือผู้มีอุปการคุณแก่สมาคม   ซึ่งคณะกรรมการลงมติให้เชิญเข้าเป็นสมาชิกของสมาคม

เมื่อสมาคมรับสมัครสมาชิกตามข้อ ๙.๑ และข้อ ๙.๒ เป็นสมาชิกแล้ว ให้เรียกว่า “สโมสรสมาชิก”

ข้อ ๑๐ คุณสมบัติของสโมสรสมาชิก ประกอบด้วย

๑๐.๑   มีการสอน หรือการเล่นกีฬาฮอกกี้ หรือกีฬาฟลอร์บอลเป็นประจำ

๑๐.๒   มีสถานที่เล่น หรือฝึกซ้อม

๑๐.๓   มีผู้ฝึกสอนรับผิดชอบในการสอน

๑๐.๔   มีผู้รับผิดชอบสโมสร

๑๐.๕   มีนักกีฬา หรือสมาชิก ไม่น้อยกว่า ๒๐ คน

๑๐.๖   มีกิจกรรมการเข้าร่วมการแข่งขันที่สมาคมเป็นผู้จัดการแข่งขันหรือรับรองเป็นประจำ

ข้อ ๑๑ ค่าลงทะเบียน และค่าบำรุงสมาคม

๑๑.๑   สโมสรสมาชิกสามัญ       จะต้องเสียค่าลงทะเบียน ครั้งแรก ๓,๐๐๐.- บาท (สามพันบาทถ้วน)

และค่าบำรุงประจำปี ปีละ ๑,๐๐๐.- บาท (หนึ่งพันบาทถ้วน)

๑๑.๒   สโมสรสมาชิกวิสามัญ     จะต้องเสียค่าลงทะเบียน ครั้งแรก ๓,๐๐๐.- บาท (สามพันบาทถ้วน)

และค่าบำรุงประจำปี ปีละ ๑,๐๐๐.- บาท (หนึ่งพันบาทถ้วน)

๑๑.๓   สมาชิกกิตติมศักดิ์ มิต้องเสียค่าลงทะเบียน และค่าบำรุงสมาคมแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ข้อ ๑๒ การสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคม ให้ผู้ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมยื่นใบสมัคร ตามแบบของสมาคมต่อเลขาธิการ และให้เลขาธิการเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการในคราวแรกที่มีการประชุม เพื่อพิจารณาอนุมัติว่าจะรับหรือไม่รับเข้าเป็นสมาชิกของสมาคม และเมื่อคณะกรรมการพิจารณาการสมัครแล้วผลเป็นประการใด ให้เลขาธิการเป็นผู้แจ้งให้ผู้สมัครทราบภายในสิบห้าวัน

ข้อ ๑๓ ถ้าคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติให้รับผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิก ก็ให้ผู้สมัครนั้นชำระเงินค่าลงทะเบียน  และค่าบำรุงประจำปีให้เสร็จภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งโดยไปรษณีย์ตอบรับจากเลขาธิการ และสมาชิกภาพของผู้สมัคร ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่ผู้สมัครได้ชำระเงินค่าลงทะเบียน และค่าบำรุงสมาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าผู้สมัครไม่ชำระเงินค่าลงทะเบียนและค่าบำรุงสมาคม ภายในกำหนด ก็ให้ถือว่าการสมัครคราวนั้นเป็นอันยกเลิก และให้เลขาธิการประกาศรายชื่อสโมสรสมาชิกในเว็บไซต์ หรือช่องทางอื่นเพื่อให้ทราบโดยทั่วกัน

ข้อ ๑๔ สมาชิกภาพของสมาชิกกิตติมศักดิ์ ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่สมาคมได้รับหนังสือตอบรับจากผู้ที่คณะกรรมการได้พิจารณาลงมติให้เชิญเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมโดยสมาชิกภาพของสมาชิกกิตติมศักดิ์ให้สิ้นสุดลง ตามวาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการหรือสมาชิกกิตติมศักดิ์ถึงแก่กรรม

ข้อ ๑๕ สมาชิกภาพของสโมสรสมาชิกให้สิ้นสุดลงด้วยเหตุดังต่อไปนี้

๑๕.๑   เลิกกิจการ หรือขาดคุณสมบัติตามข้อ ๑๐ เป็นเวลาสองปีขึ้นไป

๑๕.๒    ลาออก โดยยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการ และคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติ และสมาชิกผู้นั้นได้ชำระหนี้สินที่ยังติดค้างอยู่กับสมาคมเป็นที่เรียบร้อย

๑๕.๓   ขาดสถานภาพตามข้อ ๙

๑๕.๔   ไม่ชำระค่าบำรุงประจำปี โดยไม่มีเหตุอันสมควร ซึ่งสมาคมได้มีหนังสือทวงถามแล้ว ไม่น้อยกว่า

สองครั้ง แต่ละครั้งห่างกันไม่น้อยกว่าสามสิบวัน

๑๕.๕   ไม่ส่งทีม/นักกีฬาฮอกกี้ หรือฟลอร์บอล เข้าร่วมการแข่งขันหรือกิจกรรมที่สมาคม จัดขึ้นหรือรับรอง เป็นเวลาสองปีติดต่อกัน

๑๕.๖   ที่ประชุมใหญ่ของสมาคม ได้พิจารณาลงมติให้ลบชื่อออกจากทะเบียน เพราะสโมสรสมาชิกนั้น จงใจไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ หรือระเบียบของสมาคม หรือนำความเสื่อมเสียมาสู่สมาคม          มติที่ประชุมใหญ่ของสมาคมให้ลบชื่อออกจากทะเบียน หรือให้พ้นจากสมาชิกภาพ ให้ใช้    เสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ สโมสรสมาชิกที่ถูกลบชื่อออกจากทะเบียน หรือให้พ้นจากสมาชิกภาพ    หากประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกใหม่ ให้ยื่นใบสมัครต่อเลขาธิการสมาคมได้ เมื่อพ้นกำหนด สามปีนับแต่วันที่ถูกถอนชื่อ

๑๕.๗   ไม่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนนักกีฬาในสังกัดมาเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยโดยไม่มีเหตุผล อันสมควร

ข้อ ๑๖ สิทธิและหน้าที่ของสโมสรสมาชิกและสมาชิกกิตติมศักดิ์

๑๖.๑   มีสิทธิเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการของสมาคมต่อคณะกรรมการ

๑๖.๒    สโมสรสมาชิกสามัญมีสิทธิในการเลือกตั้ง หรือได้รับการเลือกตั้ง หรือแต่งตั้งเป็นกรรมการสมาคม และมีสิทธิออกเสียงลงมติต่าง ๆ ในที่ประชุมได้คนละหนึ่งคะแนนเสียง

๑๖.๓   สโมสรสมาชิกสามัญที่เป็นสมาชิกไม่ครบหนึ่งปี มีสิทธิในการออกเสียงลงมติต่าง ๆ ยกเว้น    การเลือกตั้งนายกสมาคม

๑๖.๔    สโมสรสมาชิกสามัญจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของสโมสรสมาชิกสามัญทั้งหมด มีสิทธิเข้าชื่อร่วมกันร้องขอต่อคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบกิจการ และทรัพย์สินของสมาคม และร้องขอต่อคณะกรรมการให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญได้ โดยยื่นคำขอเป็นหนังสือ

๑๖.๕    มีสิทธิเข้าใช้สถานที่ และอุปกรณ์ของสมาคมโดยเท่าเทียมกัน ตามหลักเกณฑ์ที่สมาคมกำหนด

๑๖.๖   มีสิทธิได้รับสวัสดิการต่าง ๆ ที่สมาคมได้จัดให้มีขึ้น ตามหลักเกณฑ์ที่สมาคมกำหนด

๑๖.๗   มีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติ และข้อบังคับของสมาคมโดยเคร่งครัด

๑๖.๘    มีหน้าที่ชำระค่าบำรุงประจำปี ภายในวันที่ ๓๑ มกราคมของทุกปี สโมสรสมาชิกที่ไม่ชำระ     ค่าบำรุงประจำปี มีสิทธิเข้าร่วมประชุมใหญ่ของสมาคม แต่ไม่มีสิทธิออกเสียงลงมติ

๑๖.๙   มีหน้าที่แจ้งการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารของสโมสรสมาชิก การย้ายสถานที่ทำการให้สมาคมทราบภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง

๑๖.๑๐ มีหน้าที่ประพฤติตนให้สมกับเกียรติที่เป็นสมาชิกของสมาคม

๑๖.๑๑ มีหน้าที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินกิจการต่าง ๆ ของสมาคม

๑๖.๑๒ มีหน้าที่ร่วมกิจกรรมที่สมาคมได้จัดให้มีขึ้น

๑๖.๑๓ มีหน้าที่ช่วยเผยแพร่ชื่อเสียงของสมาคมให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

 

หมวดที่ ๓

การดำเนินกิจการสมาคม

ข้อ ๑๗ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง ทำหน้าที่บริหารกิจการของสมาคม มีจำนวนอย่างน้อยเก้าคนแต่ไม่เกิน   สิบเก้าคน ในจำนวนนี้ให้มีกรรมการที่มาจากสโมสรสมาชิกสามัญของสมาคม จำนวนไม่น้อยกว่า  สองในสามของจำนวนคณะกรรมการทั้งหมด

๑๗.๑   ก่อนการประชุมใหญ่หกสิบวัน ให้เลขาธิการสมาคม ต้องแจ้งสโมสรสมาชิกล่วงหน้าเกี่ยวกับการเลือกตั้งนายกสมาคม โดยผู้ที่จะสมัครเป็นนายกสมาคมต้องส่งใบสมัครตามแบบที่สมาคมกำหนดให้สมาคมอย่างช้าไม่ต่ำกว่าสี่สิบห้าวันก่อนการประชุมใหญ่ การส่งใบสมัครหลังจากเที่ยงคืนของวันที่ปิดรับสมัครจะไม่ได้รับการพิจารณา

๑๗.๒   สโมสรสมาชิกมีสิทธิในการเสนอชื่อบุคคลที่จะสมัครเป็นนายกสมาคมได้ โดยการส่งชื่อของผู้ที่สมัครเป็นนายกสมาคมทุกคนจะต้องส่งใบสมัครตามแบบที่สมาคมกำหนด โดยส่งใบสมัครถึงสมาคมโดยตรง หรือทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับถึงสมาคมเท่านั้น

๑๗.๓    ให้เลขาธิการแจ้งรายชื่อผู้สมัครและผู้ที่สโมสรสมาชิกเสนอชื่อเป็นนายกสมาคมทั้งหมดให้สโมสรสมาชิกทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสามสิบวันก่อนการประชุมใหญ่

๑๗.๔   การเลือกตั้งนายกสมาคมให้เลือกตั้งในที่ประชุมใหญ่ โดยผู้ที่สมัครเป็นนายกสมาคม และผู้ที่สโมสรสมาชิกเสนอชื่อเป็นนายกสมาคม ต้องมีเสียงรับรองจากสโมสรสมาชิกสามัญ จำนวน    ไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของสโมสรสมาชิกสามัญที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด ในกรณีที่มีผู้สมัครและถูกเสนอชื่อเป็นนายกสมาคมมากกว่าหนึ่งคน ซึ่งจะใช้การลงคะแนนเสียงเป็นวิธีลับเฉพาะสโมสรสมาชิกสามัญเท่านั้นที่มีสิทธิลงคะแนน ผู้ที่ได้รับการลงคะแนนสูงสุดจะได้รับ       การเลือกตั้งเป็นนายกสมาคม และให้นายกสมาคมไปแต่งตั้งกรรมการสมาคมต่อไป

ข้อ ๑๘ กรรมการของสมาคม ประกอบด้วยคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้

๑๘.๑    มีคุณวุฒิหรือประสบการณ์เหมาะสมกับการดำเนินกิจกรรมเกี่ยวข้องกับการกีฬา หรือการส่งเสริมกีฬาภายในขอบเขตวัตถุประสงค์ของสมาคม

๑๘.๒   ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

๑๘.๓   ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

๑๘.๔   ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้

กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ

๑๘.๕   ไม่เคยถูกนายทะเบียนสั่งให้พ้นจากตำแหน่งกรรมการสมาคมกีฬาตามมาตรา ๘๖ (๔) แห่งพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘     เว้นแต่จะพ้นกำหนดห้าปีนับแต่วันที่ถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง

๑๘.๖   ไม่ดำรงตำแหน่งกรรมการของสมาคมเกินกว่าสองแห่ง สำหรับตำแหน่งนายกสมาคม หรือเลขาธิการสมาคมให้ดำรงตำแหน่งได้ไม่เกินหนึ่งแห่ง

ข้อ ๑๙ กรรมการของสมาคมที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกสมาคม มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับการจดทะเบียนจากนายทะเบียน และอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ ทั้งนี้ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด

ข้อ ๒๐ การแต่งตั้งกรรมการของสมาคมขึ้นใหม่ทั้งชุดหรือการเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม ให้สมาคมนำไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนแห่งท้องที่ที่สำนักงานของสมาคมตั้งอยู่ภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่มีการแต่งตั้ง หรือเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม และเมื่อคณะกรรมการอยู่ในตำแหน่งครบกำหนด  ตามวาระแล้ว แต่คณะกรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากนายทะเบียน ก็ให้คณะกรรมการชุดเดิมปฏิบัติหน้าที่กรรมการสมาคมต่อไปจนกว่าคณะกรรมการชุดใหม่จะได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากนายทะเบียนเป็นที่เรียบร้อย และให้ทำการส่ง และรับมอบงานกันระหว่างคณะกรรมการชุดเดิมและคณะกรรมการชุดใหม่ ให้เป็นที่เสร็จสิ้นภายในสามสิบวันนับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากนายทะเบียน

ข้อ ๒๑ กรณีตำแหน่งนายกสมาคมว่างลง ให้คณะกรรมการพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และให้คณะกรรมการ จัดให้มีการประชุมใหญ่ เพื่อเลือกตั้งนายกสมาคมภายในหกสิบวัน

ข้อ ๒๒ ตำแหน่งกรรมการสมาคม ยกเว้นนายกสมาคมว่างลงก่อนครบกำหนดตามวาระให้นายกสมาคมแต่งตั้งบุคคลหรือสมาชิกที่เห็นสมควรเข้าดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่างลงนั้น เว้นแต่บุคคลนั้นถูกมีมติ      ให้ออกโดยที่ประชุมใหญ่

ข้อ ๒๓ กรรมการอาจจะพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งมิใช่เป็นการออกตามวาระด้วยเหตุผลต่อไปนี้ คือ

๒๓.๑   ตาย

๒๓.๒   ลาออก โดยยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อนายกสมาคม

๒๓.๓   ขาดจากคุณสมบัติหรือสมาชิกภาพ

๒๓.๔   ที่ประชุมใหญ่ลงมติให้ออกจากตำแหน่งด้วยคะแนนเสียงสามในสี่ของสโมสรสมาชิกสามัญ

ที่เข้าร่วมประชุม

๒๓.๕   ตำแหน่งนายกสมาคมว่างลง คณะกรรมการพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ

ข้อ ๒๔ อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ

๒๔.๑   มีอำนาจออกระเบียบปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อให้สมาชิกได้ปฏิบัติ โดยระเบียบปฏิบัตินั้นจะต้องไม่ขัดต่อข้อบังคับนี้

๒๔.๒   มีอำนาจแต่งตั้งและถอดถอนเจ้าหน้าที่ของสมาคม

๒๔.๓   มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการที่ปรึกษา หรืออนุกรรมการได้ แต่กรรมการที่ปรึกษา หรืออนุกรรมการ

จะสามารถอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกินวาระของคณะกรรมการที่แต่งตั้ง

๒๔.๔   มีอำนาจเรียกประชุมใหญ่สามัญประจำปี และประชุมใหญ่วิสามัญ

๒๔.๕   มีอำนาจลงโทษสโมสรสมาชิก นักกีฬา ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน เจ้าหน้าที่ หรือบุคคลในวงการกีฬาฮอกกี้ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับหรือระเบียบ คำสั่งของสมาคม ละเมิด กฎ กติกาการแข่งขัน  หรือประพฤติไม่เหมาะสมกับหน้าที่หรือมารยาทอันดีงาม หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด เป็นการเสียหายแก่สมาคมตามความอันสมควรแก่กรณี

๒๔.๖   มีอำนาจบริหารกิจการของสมาคม เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ตลอดจนมีอำนาจอื่น ๆ ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้

๒๔.๗   มีหน้าที่รับผิดชอบในกิจการทั้งหมด รวมทั้งการเงิน และทรัพย์สินทั้งหมดของสมาคม

๒๔.๘   มีหน้าที่จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ ตามที่สโมสรสมาชิกสามัญจำนวนหนึ่งในห้าของสโมสรสมาชิกสามัญทั้งหมดได้เข้าชื่อร้องขอให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญขึ้น ซึ่งการนี้จะต้องจัดให้มี    การประชุมใหญ่วิสามัญภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือร้องขอ ถ้าคณะกรรมการของสมาคมไม่เรียกประชุมภายในระยะเวลา สมาชิกที่เป็นผู้ร้องขอให้เรียกประชุมจะเรียกประชุมเองก็ได้

๒๔.๙   มีหน้าที่จัดทำบัญชีงบดุลอย่างน้อยหนึ่งครั้งทุกรอบสิบสองเดือน ซึ่งในบัญชีงบดุลต้องมีรายการแสดงจำนวนสินทรัพย์ และหนี้สินของสมาคม รวมถึงบัญชีรายรับ รายจ่าย และต้องผ่าน      การตรวจสอบ และลงนามของผู้สอบบัญชี เพื่อเสนอขออนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ของสมาคมภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่สิ้นปีการบัญชี

๒๔.๑๐ มีหน้าที่จัดทำรายงานประจำปี และผลการดำเนินการของสมาคมเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ ในคราวที่เสนองบดุล และให้ส่งสำเนารายงานกับงบดุลไปยังนายทะเบียนภายในกำหนดเวลาสามสิบวันนับแต่วันที่มีการประชุมใหญ่

๒๔.๑๑ มีหน้าที่จัดทำทะเบียนรายชื่อ และจำนวนสมาชิกของสมาคมตามแบบที่นายทะเบียนกลางสมาคมกีฬากำหนด และเก็บรักษาทะเบียนดังกล่าวพร้อมหลักฐาน และเอกสารที่ใช้ประกอบการลงทะเบียนไว้ที่สำนักงาน และเมื่อรับสมาชิกใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงบัญชีรายชื่อ และจำนวนสมาชิก ให้แจ้งต่อนายทะเบียนทราบภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่รับสมาชิกใหม่  หรือมีการเปลี่ยนแปลง

๒๔.๑๒ มีหน้าที่นำรายชื่อคณะกรรมการสมาคมไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนแห่งท้องที่ที่สำนักงานของ

สมาคมตั้งอยู่ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการแต่งตั้ง หรือเปลี่ยนแปลงกรรมการสมาคม

๒๔.๑๓ มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับสมาคม พระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘

และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่างเคร่งครัด

ข้อ ๒๕ กรรมการจะต้องประชุมกันอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการบริหารกิจการของสมาคม

ข้อ ๒๖ ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้านายกสมาคม และอุปนายกสมาคมไม่อยู่ในที่ประชุม หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ให้กรรมการที่เข้าประชุมคราวนั้นเลือกตั้งกันเอง เพื่อให้กรรมการคนใดคนหนึ่ง ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น

ข้อ ๒๗ การประชุมคณะกรรมการ จะต้องมีกรรมการเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด   จึงจะถือว่าครบองค์ประชุม มติของที่ประชุมคณะกรรมการให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ แต่ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันก็ให้ประธานในการประชุมเป็นผู้ชี้ขาด

 

หมวดที่ ๔

การประชุมใหญ่

ข้อ ๒๘ การประชุมใหญ่ของสมาคม มีสองชนิด คือ

๒๘.๑   ประชุมใหญ่สามัญ

๒๘.๒   ประชุมใหญ่วิสามัญ

ข้อ ๒๙ คณะกรรมการจะต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี ๆ ละหนึ่งครั้ง ไม่เกินเดือนเมษายน       ของทุก ๆ ปี

ข้อ ๓๐ การประชุมใหญ่วิสามัญ อาจจะมีขึ้นได้ก็โดยเหตุที่คณะกรรมการเห็นควรจัดให้มีขึ้น หรือเกิดขึ้นด้วย  การเข้าชื่อร่วมกันของสโมสรสมาชิกสามัญจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของสโมสรสมาชิกสามัญทั้งหมดร้องขอต่อคณะกรรมการให้จัดให้มีขึ้น

ข้อ ๓๑ ในกรณีคณะกรรมการ ได้รับการร้องขอให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญ ให้เรียกประชุมภายในสามสิบวัน   นับแต่วันที่คณะกรรมการได้รับการร้องขอ ถ้าคณะกรรมการของสมาคมไม่เรียกประชุมภายในระยะเวลาที่กำหนด การเรียกประชุมตามกำหนดนี้ สโมสรสมาชิกสามัญที่เป็นผู้ร้องขอให้เรียกประชุมจะเรียกประชุมเองก็ได้

ข้อ ๓๒ การแจ้งกำหนดนัดประชุมใหญ่ให้เลขาธิการเป็นผู้แจ้งกำหนดนัดประชุมใหญ่ให้สโมสรสมาชิก ได้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษร โดยระบุวัน เวลา และสถานที่ให้ชัดเจน ไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน หรือประกาศแจ้งกำหนดนัดประชุมในเว็บไซต์ หรือช่องทางอื่นเพื่อให้ทราบโดยทั่วกัน

ข้อ ๓๓ การประชุมใหญ่ประจำปี ควรมีวาระการประชุมพอสังเขป ดังต่อไปนี้

๓๓.๑   เรื่องประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ

๓๓.๒   เรื่องรับรองรายงานการประชุมใหญ่ประจำปี ครั้งที่แล้ว

๓๓.๓   เรื่องแถลงกิจการที่ผ่านมาในรอบปี

๓๓.๔   เรื่องแถลงบัญชีรายรับ รายจ่าย และบัญชีงบดุลของปีที่ผ่านมาให้ที่ประชุมใหญ่อนุมัติ

๓๓.๕   เรื่องเลือกตั้งนายกสมาคมเมื่อครบกำหนดวาระ หรือตำแหน่งนายกสมาคมว่างลง

๓๓.๖   เรื่องแต่งตั้งผู้สอบบัญชีประจำปี

๓๓.๗   เรื่องอื่น ๆ (ถ้ามี)

ข้อ ๓๔ ในการประชุมใหญ่สามัญ หรือการประชุมใหญ่วิสามัญจะต้องมีสโมสรสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุม      ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสโมสรสมาชิกสามัญทั้งหมด จึงจะถือว่าครบองค์ประชุม แต่ถ้าเมื่อถึงกำหนดเวลาประชุม ยังมีสโมสรสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมไม่ครบองค์ประชุม ก็ให้ขยายเวลาออกไปอีกหนึ่งชั่วโมง แต่เมื่อครบกำหนดเวลาขยายออกไปแล้ว ยังมีสโมสรสมาชิกเข้าร่วมประชุมไม่ครบองค์ประชุม ก็ให้เลื่อนการประชุมคราวนั้นไป และให้จัดประชุมใหญ่อีกครั้งหนึ่งภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่นัดประชุมครั้งแรก สำหรับการประชุมในครั้งหลังนี้ ถ้ามีสโมสรสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมจำนวนเท่าใดก็ได้เป็นองค์ประชุม ยกเว้นถ้าเป็นการประชุมใหญ่วิสามัญที่เกิดขึ้นจากการร้องขอของสโมสรสมาชิก ก็ไม่ต้องจัดประชุมใหญ่ ให้ถือว่าการประชุมเป็นอันยกเลิก

ข้อ ๓๕ การลงมติต่าง ๆ ในที่ประชุมใหญ่ ให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ แต่ถ้าคะแนนเสียงที่ลงมติ        มีคะแนนเสียงเท่ากัน ก็ให้ประธานในการประชุมเป็นผู้ชี้ขาด

ข้อ ๓๖ สโมสรสมาชิกสามัญจะมอบอำนาจให้สโมสรสมาชิกสามัญอื่นเข้าร่วมประชุม และออกเสียงลงคะแนนแทนตนก็ได้ โดยมีหนังสือมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมสำเนาบัตรของผู้มอบอำนาจ และ   ผู้รับมอบอำนาจ โดยผู้รับมอบอำนาจจะรับมอบอำนาจได้ไม่เกินสามแห่ง

ข้อ ๓๗ ในการประชุมใหญ่ของสมาคม ถ้านายกสมาคม และอุปนายกสมาคมไม่มาร่วมประชุม หรือไม่สามารถ จะปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ให้ที่ประชุมใหญ่ทำการเลือกตั้งกรรมการที่มาร่วมประชุมคนใดคนหนึ่งให้ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น

 

หมวดที่ ๕

การเงินและทรัพย์สิน

ข้อ ๓๘ การเงิน และทรัพย์สินทั้งหมดของสมาคมให้อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการ เงินสดของสมาคมถ้ามีให้นำฝากไว้ในธนาคารที่สมาคมกำหนด โดยรายรับ รายจ่ายทั้งหมดต้องผ่านบัญชีของสมาคมเท่านั้น

ข้อ ๓๙ การลงนามในตั๋วเงิน หรือเช็คของสมาคม จะต้องมีลายมือชื่อของนายกสมาคม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ทำการแทนนายกสมาคมลงนามร่วมกับเหรัญญิก

ข้อ ๔๐ ให้นายกสมาคมมีอำนาจสั่งจ่ายเงินของสมาคมได้ครั้งละไม่เกิน ๒,๐๐๐,๐๐๐.- บาท (สองล้านบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่านั้นจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ

ข้อ ๔๑ ให้เหรัญญิกมีอำนาจเก็บรักษาเงินสดของสมาคมไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐.- บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่าจำนวนนี้ จะต้องนำฝากธนาคารในบัญชีของสมาคมทันทีที่โอกาสอำนวยให้

ข้อ ๔๒ เหรัญญิก จะต้องทำบัญชีรายรับ รายจ่าย และบัญชีงบดุลให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ ตามปีปฏิทิน บัญชีงบดุลนี้ ต้องให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบก่อนที่จะเสนอที่ประชุมใหญ่ เพื่อพิจารณาให้การอนุมัติภายใน  หนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่สิ้นปีการบัญชี

ข้อ ๔๓ ผู้สอบบัญชี จะต้องมิใช่กรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของสมาคม และจะต้องเป็นผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาต

ข้อ ๔๔ ผู้สอบบัญชี มีอำนาจหน้าที่จะเรียกเอกสารที่เกี่ยวกับการเงินและทรัพย์สินจากคณะกรรมการและสามารถจะเชิญกรรมการ หรือเจ้าหน้าที่ของสมาคมเพื่อสอบถามเกี่ยวกับบัญชี และทรัพย์สินของสมาคมได้

ข้อ ๔๕ คณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่ของสมาคมจะต้องให้ความร่วมมือกับผู้สอบบัญชี เมื่อได้รับการร้องขอ

ข้อ ๔๖ ในกรณีผู้สอบบัญชีต้องพ้นจากหน้าที่ไม่ว่าด้วยเหตุใดระหว่างการสอบบัญชียังไม่เสร็จสิ้นให้คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งผู้สอบบัญชีคนใหม่เข้าทำการแทนได้

 

หมวดที่ ๖

การแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับและการเลิกสมาคม

ข้อ ๔๗ ข้อบังคับของสมาคมจะแก้ไขหรือเพิ่มเติมได้โดยมติของที่ประชุมใหญ่ และองค์ประชุมใหญ่จะต้องมีสโมสรสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสโมสรสมาชิกสามัญทั้งหมด มติของที่ประชุมใหญ่ในการให้แก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับ จะต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของสโมสรสมาชิกสามัญที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด และสมาคมต้องนำข้อบังคับที่ได้แก้ไขหรือเพิ่มเติม  ไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนแห่งท้องที่ที่สำนักงานของสมาคมตั้งอยู่ภายในสิบสี่วัน นับแต่วันที่ที่ประชุมใหญ่ลงมติ เมื่อนายทะเบียนได้จดทะเบียนแล้ว ให้มีผลใช้บังคับได้

ข้อ ๔๘ การเลิกสมาคมจะเลิกได้โดยมติของที่ประชุมใหญ่ของสมาคม มติของที่ประชุมใหญ่ที่ให้เลิกสมาคมจะต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของสโมสรสมาชิกสามัญทั้งหมด หรือมีเหตุตามที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย

ข้อ ๔๙ เมื่อสมาคมต้องเลิก ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม ทรัพย์สินของสมาคมที่เหลืออยู่หลังจากที่ได้ดำเนินการชำระบัญชีตามที่กฎหมายกำหนดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ตกเป็นของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติหรือนิติบุคคลที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการกุศลสาธารณประโยชน์

หมวดที่ ๗

บทลงโทษ

ข้อ ๕๐ ให้สมาคมลงโทษนักกีฬา ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน เจ้าหน้าที่ หรือบุคคลในวงการกีฬาฮอกกี้ และฟลอร์บอล เมื่อละเมิดข้อบังคับ หรือระเบียบ กฎ กติกาการแข่งขัน หรือฝ่าฝืนคำสั่งของสมาคม ประพฤติไม่เหมาะสมต่อหน้าที่หรือมารยาทอันดีงาม หรือฝ่าฝืนกฎหมาย ให้สมาคมลงโทษตามสมควรแก่กรณี ที่กระทำความผิด ดังนี้

๕๐.๑   ว่ากล่าวตักเตือน

๕๐.๒   ภาคทัณฑ์

๕๐.๓   ตัดสิทธิ์ออกจากการเป็นนักกีฬาทีมชาติ กรรมการสมาคม ตัดสิทธิ์จากการเป็นผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน และเจ้าหน้าที่ของสมาคม หรือบุคคลในวงการกีฬาฮอกกี้ และฟลอร์บอลสำหรับปีที่กระทำผิดนั้น และปีต่อไปอีกไม่น้อยกว่าหนึ่งปี แต่ไม่เกินห้าปี

ให้สมาคมนำระเบียบหรือข้อบังคับใด ๆ ของการกีฬาแห่งประเทศไทยมาใช้บังคับได้โดยอนุโลม

 

หมวดที่ ๘

บทเฉพาะกาล

ข้อ ๕๑ ให้คณะกรรมการของสมาคมกีฬาฮอกกี้แห่งประเทศไทย ที่ได้รับการจดทะเบียนจากนายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานคร ตามใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนการแต่งตั้งกรรมการสมาคมขึ้นใหม่ทั้งชุด (ส.ค.๖) ทะเบียนเลขที่ จ. ๘๐๖/๒๕๕๗ ฉบับลงวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนครบวาระ สองปี นับจากวันที่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากนายทะเบียน

ข้อ ๕๒ บรรดาระเบียบหรือประกาศของสมาคมที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนที่ข้อบังคับสมาคมฉบับนี้ใช้บังคับ ยังคงให้ใช้ข้อบังคับต่อไปเพียงเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับนี้

นายกองเอก  ชัยภักดิ์  ศิริวัฒน์ นายกสมาคมกีฬาฮอกกี้แห่งประเทศไทย  ผู้จัดทำข้อบังคับ

สมาคมกีฬาฮอกกี้แห่งประเทศไทย ห้องหมายเลข 3 ชั้น 17 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ การกีฬาแห่งประเทศไทย เลขที่ 286 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
โทร 02-1709625 แฟกซ์ 02-1709626 E-Mail : thahockey@gmail.com